อำนาจละมุน หรืออำนาจอ่อน ไม่คุ้นเลย แต่หากเป็น soft power ก็ต้องร้องอ๋อกันทีเดียว เพราะไทยเรามีหลายอย่างที่จะใช้ได้ แต่จะทำอย่างไรที่ทำให้ soft power ของไทย ไปให้ไกล … และไปให้ถึง …. ไม่ยาก แต่ก็คงไม่ง่าย….
ใครว่า soft power เป็นเรื่องใหม่ และรัฐบาลไม่สนใจ แต่เท่าที่เห็น..ก็ดูสนใจนะ เพียงยังไม่เร่งเครื่องดูได้จากที่ไทยมีทั้งกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงวัฒนธรรมที่เป็นหน่วยงานหลักส่งเสริม soft power ของไทย ซึ่งเป้าหมายที่จะออกแรงส่งเสริมจากที่อ่าน ๆ มาก็มี 5 F ได้แก่ 1) อาหาร (Food) 2) ภาพยนตร์และวีดิทัศน์ (Film) 3) การออกแบบแฟชั่นไทย (Fashion) 4) ศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย (Fighting) และ 5) เทศกาลประเพณีไทย (Festival)
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของกระทรวงพาณิชย์ก็ตั้งเป้าหมายผลักดันการส่งออกใน 4 กลุ่มสินค้าเกี่ยวข้อง ได้แก่ อาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์ สุขภาพความงาม และสินค้าสร้างสรรค์อัตลักษณ์ไทย ผ่าน 4 แนวทางหลัก ได้แก่ 1) บ่มเพาะผู้ประกอบการยุคใหม่ให้มี Mindset ด้าน Soft Power 2) พัฒนาสินค้าสร้างสรรค์อัตลักษณ์ไทย 3) ขยายตลาดสินค้าอาหารไทย อุตสาหกรรมดิจิทัลคอนเทนต์และธุรกิจบริการ Wellness Medical Service (WMS) และ 4) ประชาสัมพันธ์และสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ประเทศไทย โดยในปี 2565 มีโครงการสนับสนุนทั้งสิ้น 32 โครงการ
การส่งเสริมของหน่วยงานภาครัฐข้างบนที่ผู้เขียนนำมาจากภารกิจของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาจจะเป็นทางการไปนิดนึง และยังจับต้องไม่ได้ แต่หากคนไทยทุกคนเร่งเครื่องช่วยรัฐบาลกันหน่อย ก็สามารถดังเปรี้ยงปร้างไปทั่วโลกได้เพียงข้ามคืน เช่น ข้าวเหนียวมะม่วงที่นักร้อง rapper อายุไม่ถึง 20 ปี …มิลลิ-ดนุภา คณาธีรกุล ขึ้นไปรับประทานทานบนเวทีเพื่อใช้ประกอบการขึ้นโชว์บนเวทีระดับโลก Coachella ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ในเพลงที่ป้า ๆ ฟังแล้ว แม้จะหายใจไม่ทัน แต่ก็สนุกไปด้วย นอกจากนี้ ยังเห็นว่า T-pop ดนตรีของไทยเราก็กำลังมาแรงเช่นกัน และมีอื่น ๆ เช่น เมื่อ 20 มิถุนายน 2565 กีฬาที่ล่าสุดวอลเลย์บอลหญิงของเราเล่นได้อย่างประทับใจกับทีมสหรัฐอเมริกาในการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ ลีก 2022 (VNL 2022) ที่ สนามสมาร์ท อราเนตา โคลีเซียม ที่เมืองเกซอน ซิตี้ ประเทศฟิลิปปินส์
หลายคนอาจสงสัยว่า ไทยมีศักยภาพด้าน soft power จริง ๆ หรือ หรือคิดกันไปเอง ก็ขอยกตัวอย่างการจัดอันดับ Global soft power จาก 2 องค์กร ได้แก่ Brand Finance ซึ่งเป็นบริษัทให้คำปรึกษาด้านการจัดการกลยุทธ์ของสหราชอาณาจักร และ Center on Public Diplomacy ของมหาวิทยาลัย Southern California ที่ทำงานร่วมกับบริษัทที่ปรึกษา Portland ของสหรัฐอเมริกา โดย Brand Finance ได้จัดทำดัชนี Global Soft Power Index ทุกปี และเมื่อกลางมีนาคม 2565 ก็บอกว่า ปี 2565 ไทยอยู่อันดับ 35 แม้ลดลงจากอันดับ 33 เมื่อปี 2564 แต่คะแนนดีขึ้น เป็น 40.2 จาก 38.7 คะแนน ซึ่งจุดแข็งของไทยยังคงเป็นเรื่องอาหารและการท่องเที่ยว ส่วน 5 อันดับแรกของโลก ได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี จีน และญี่ปุ่น
ก่อนหน้านี้ ไทยอยู่ในการจัดอันดับ soft power ในเอเชีย 10 อันดับแรกของ The Soft Power 30: A Global Ranking of Soft Power 2019 ที่จัดทำเมื่อธันวาคม 2562 โดย Center on Public Diplomacy ของมหาวิทยาลัย Southern California ที่ทำงานร่วมกับบริษัทที่ปรึกษา Portland ของสหรัฐอเมริกา
เห็นไหม ไทยก็มีดีเกี่ยวกับ soft power เพียงแต่ที่บอกไว้ในตอนต้นว่า รัฐบาลต้องเร่งเครื่อง อย่าผ่อนแรง แถมต้องพุ่งแรงด้วย ในการสนับสนุน soft power อย่างจริงจังและต่อเนื่อง รวมทั้งให้ภาคเอกชนรายเล็ก รายย่อย รายใหญ่มีส่วนร่วม เฉพาะอย่างยิ่งช่วงการเป็นเจ้าภาพการประชุม APEC ที่จะมีผู้นำ 21 เขตเศรษฐกิจเดินทางมาไทยในพฤศจิกายน 2565 ก็จะเป็นโอกาสให้ไทยได้แสดง อำนาจละมุน หรืออำนาจอ่อน ได้อย่างเต็มที่ มองข้ามเรื่องอื่น ๆ ไปก่อน รวมทั้งเรื่องจะมาหรือไม่มาไทยในห้วงดังกล่าวของปูติน -ประธานาธิบดีรัสเซีย และลุงโจ-ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เพราะต่างฝ่ายอยู่กันคนละขั้วในสงครามยูเครน
แต่เมื่อถึงเวลานั้น เรื่องนี้อาจไม่ต้องกังวล เพราะเริ่มมีรายงานข่าวแล้วว่า ฤดูหนาวอาจเป็นจุดพลิกผันของวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน เพราะกองทัพรัสเซียจะทำสงครามลำบากด้วยสภาพภูมิอากาศ หรือยุโรปอาจเปลี่ยนใจไปอยู่ฝ่ายเดียวกับรัสเซีย เพราะยิ่งหนาวเท่าไร อาจต้องยอมเสียหน้ากลับมานำเข้าก๊าซจากรัสเซีย ……. อะไรอะไรก็เกิดขึ้นได้….( เอ จบด้วยเรื่อง hard power เสียนี่ )
——————————————