Trend สุขภาพกำลังเป็นที่มาแรงเป็นอย่างมาก บทความนี้ไม่ได้เขียนมาเพื่อโน้มน้าวให้เชื่อว่า การดูแลสุขภาพนั้นดีอย่างไร …….แต่จะเล่าถึงความยิ่งใหญ่ของวงการสุขภาพ ที่มีมิติกว้างกว่าการรักษาพยาบาล แต่ครอบคลุมถึงการดูแลสุขภาพเชิงรุก การป้องกันโรค การดูแลผู้สูงอายุ ศัลยกรรมเพื่อความงาม การชะลอวัย เทคโนโลยีทางการแพทย์ วิทยาการทางการแพทย์ งานวิจัยทางการแพทย์ และการฟื้นฟูบำรุงร่างกาย ภายใต้คำว่า Health care
ปัจจุบันธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์นั้นมีหลากหลายมาก ตั้งแต่การให้บริการ โรงงานผลิตอุปกรณ์ ห้องทดลองยารักษาโรค มหาวิทยาลัยที่พัฒนาความรู้ทางด้านการแพทย์ และธุรกิจเหล่านี้กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่องไปจนถึงในอนาคตที่มีแนวโน้นการเติบโตที่มั่นคงกว่าการพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านอวกาศหรือธุรกิจเทคโนโลยีที่ดูอาจจะเป็นอนาคตอันเลือนลาง
อะไรคือหลักฐานที่ทำให้เราเชื่อเรื่องนี้? ก็มาจากการที่รายได้จากบริษัท Pfizer ในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด 19 เพิ่มขึ้น 41% เป็นมูลค่ากว่า 18.96 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในระยะเวลาแค่ 2 ไตรมาส ตัวเลขเหล่านี้ทำให้การลงทุนในกลุ่ม Healthcare ทั้งหมด เป็นที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุนในช่วงโควิด 19 แม้ในปัจจุบันอัตราการเติบโตของกองทุนจะไม่รวดเร็วหรือหวือหวาเท่ากับในช่วงเกิดโควิด แต่การเติบโตของธุรกิจในกลุ่ม Healthcare ยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง เพราะความนิยมในการดูแลรักษาสุขภาพ ทำให้เรื่องของการดูแลรักษาร่างกายไม่ใช่เรื่องในโรงพยาบาลเพียงอย่างเดียว โดยเฉพาะกับธุรกิจ การบริการในรูปแบบของ Wellness
กิจกรรม Wellness มีอะไรบ้าง ยกตัวอย่างเช่นกิจกรรมบำบัดเพื่อความผ่อนคลาย โดยใช้แนวทางแพทย์ทางเลือก ค่อยๆ ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับการนวด และสปา เพื่อยกระดับ Wellness ให้เหมาะกับบุคคลมากขึ้น ที่พิเศษกว่าการผ่อนคลายทั่วไป คือ การมีแพทย์เป็นผู้วิเคราะห์ร่างกายเพื่อวางแผนการดูแลสุขภาพ เสมือนมีเทรนเนอร์ดูแลสุขภาพส่วนตัวที่คอยดูแลสุขภาพตลอดเวลา ความนิยมในการพักผ่อนเพื่อฟื้นฟูสามารถสร้างรายได้มหาศาลโดยในปี 2565 สร้างรายได้ กว่า 4.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ จนทำให้โรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มเปิดแผนก Wellness ดูแลความงามและชะลอวัย อาหารปลอดภัย การกายภาพ ควบคู่ไปกับการรักษา หรือเพิ่มส่วนรองรับการฟื้นฟูที่สะดวกสบาย ภายหลังจากการรักษาใหญ่ เช่น การผ่าตัด ศัลยกรรม การคลอดบุตร เป็นต้น
…………ในทางกลับกัน โรงแรมหรือที่พักต่างๆ ก็เพิ่มเติมอุปกรณ์ทางการแพทย์ หรือบุคลากรที่มีความรู้ เพื่อเปลี่ยนอสังหาริมทรัพย์รองรับ Wellness Tourism รับกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ สามารถเพิ่มมูลค่าการบริการได้มากขึ้นกว่า 35%
นี่อาจจะเป็นเทรนด์ที่เป็นโอกาสใหญ่ของประเทศไทยก็ได้ เพราะจากการจัดอันดับความน่าสนใจในการเป็น Medihub ในโลก ประเทศไทยอยู่ในลำดับที่ 5 นอกจากจะเป็นประเทศที่ได้รับความนิยมสำหรับการเป็นจุดหมายของการพักผ่อน การท่องเที่ยวจากการชื่นชมทรัพยากรธรรมชาติ แต่ในอนาคต….ถ้าเราสามารถขยายการท่องเที่ยวจะไปสู่การสร้างรายได้ให้กับการบริการทางด้านสาธารณสุขได้ด้วย น่าจะเป็นประโยชน์อย่างมากและสร้างการท่องเที่ยวที่มีสุขภาพดี!!
ดังนั้น ภาครัฐจึงควรคิดเรื่องการวางแผนการสนับสนุนทางด้านการพัฒนาเครื่องมือทางการแพทย์ การวิจัยต่อยอดเทคนิคทางการแพทย์ เพื่อปิดจุดอ่อนจากการนำเข้าเครื่องมือการแพทย์ ที่ทำให้ไทยต้องใช้รายได้ไม่ต่ำกว่า 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และถือเป็นโอกาสที่จะยกระดับแพทย์แผนไทยซึ่งเป็นภูมิปัญญาประจำชาติให้เป็นที่ยอมรับสำหรับยาที่ใช้สมุนไพรจากธรรมชาติไร้สารเคมีตกค้าง
อาณาจักรของ Healthcare จึงมีประโยชน์ต่อมนุษย์และประเทศชาติ มากกว่าแค่การดูแลสุขภาพของประชาชน เพราะยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างตำแหน่งงาน ดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ลดการนำเข้ายาราคาแพงจากต่างประเทศ ถือเป็นอีกจุดแข็งของประเทศไทยที่จะเติบโตไปในเวทีโลกได้