หน่วยงานสำคัญด้านความมั่นคงและต่างประเทศของสหรัฐฯ ประกาศยืนยันกับทั่วโลกผ่านถ้อยแถลงในช่วงนี้ ว่าการเมืองและประชาธิปไตยของสหรัฐฯ ยังแข็งแกร่ง เพื่อตอบโต้ประเทศคู่แข่งและคู่ขัดแย้ง ที่วิจารณ์การเมืองสหรัฐฯ ในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วว่า สะท้อนความไม่มั่นคงในระบบการเมืองและประชาธิปไตย และใช้โอกาสนี้โจมตีสภาพสังคมอเมริกา โดยกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงเมื่อ 25 ก.ค.67 ว่า ระบบการเมืองสหรัฐฯ ยังคงแข็งแกร่ง และหากประเทศใดหรือคู่ขัดแย้งใดพยายามสร้างสถานการณ์วุ่นวายเพื่อทำลายความมั่นคงและผลประโยชน์แห่งชาติ สหรัฐฯ ก็พร้อมจะตอบโต้ โดยใช้ทั้งกลไกการทูตและการทหาร
ท่าทีของหน่วยงานต่าง ๆ มีขึ้นหลังจากประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน ถอนตัวจากการลงสมัครเป็นผู้แทนพรรคเดโมแครตชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปลายปีนี้ และสนับสนุนรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส แทน พร้อมทั้งโน้มน้าวให้ชาวอเมริกันเลือกรองประธานาธิบดีแฮร์ริส เพื่อก้าวไปข้างหน้าและยังคมีความหวัง ดีกว่าเลือกอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะทำให้อเมริกาถอยหลังและมีแต่ความเกลียดชัง
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองดังกล่าว รวมทั้งเหตุความพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้หน่วยความมั่นคงสหรัฐฯ ต้องเพิ่มความตื่นตัวเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันภัยคุกคามต่อการเลือกตั้งสหรัฐฯ ที่เชื่อว่าจะตกเป็นเป้าหมายโจมตีของประเทศศัตรูหรือคู่แข่งที่ต้องการบ่อนทำลายอิทธิพลของสหรัฐฯ ในต่างประเทศ ปัจจุบัน สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) วิตกความเคลื่อนไหวของอิหร่าน ที่อาจมุ่งโจมตีอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อแก้แค้นกรณีการสังหารผู้นำทหารกลุ่ม Quds Force เมื่อปี 2563 นอกจากนี้ สหรัฐฯ ต้องการส่งสัญญาณเตือนไปยังจีนและรัสเซีย ที่ปัจจุบันใช้สื่อมวลชนวิจารณ์การเมืองอเมริกาเชิงลบอย่างต่อเนื่อง และยังจัดการฝึกทางทหารร่วมกันบริเวณใกล้กับรัฐอะแลสกา ของสหรัฐฯ
ในช่วงเวลาทั้งก่อนและหลังการเลือกตั้งปี 2567 สหรัฐฯ จะเผชิญความท้าทายทางการเมืองและความมั่นคงสูงมากกว่าปีอื่น ๆ เนื่องจากปัจจัยการเมืองและสังคมภายในประเทศที่มีการสะสมความเกลียดชังและแนวคิดหัวรุนแรงสุดโต่ง และมีการแพร่กระจายข่าวปลอมและทฤษฎีสมคบคิดที่แผ่กว้างจากการใช้สื่อสังคมออนไลน์ นอกจากนี้ สถานการณ์ต่างประเทศที่มีความขัดแย้งสูง และมีสหรัฐฯ เข้าไปเกี่ยวข้อง ตลอดจนภัยคุกคามทางไซเบอร์ที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น จะทำให้หน่วยความมั่นคงและการต่างประเทศของสหรัฐฯ ต้องทำงานหนักเพื่อหาข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการแจ้งเตือนรัฐบาล และปกป้องผลประโยชน์ของชาติทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงหรือวินาศกรรมที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ความมั่นคงปลอดภัยของประเทศมหาอำนาจอันดับ 1