เว็บไซต์ bleeping computer รายงานเมื่อ 27 ก.ย.68 ว่า ตำรวจเนเธอร์แลนด์ได้จับกุมเยาวชนชายชาวดัตช์จำนวน 2 ราย อายุ 17 ปี จากกรณีถูกกล่าวหาว่าใช้อุปกรณ์ทางเทคโนโลยีเพื่อสอดส่องและรวบรวมข้อมูลให้แก่รัสเซีย เมื่อ 22 ก.ย.68 ตามรายงานของสำนักข่าว De Telegraaf เยาวชนทั้งสองได้ใช้อุปกรณ์ดักจับสัญญาณ Wi-Fi บริเวณใกล้สำนักงานของ Europol, Eurojust และสถานเอกอัครราชทูตแคนาดา ณ กรุงเฮก
สำนักข่าว Bleeping Computer รายงานว่าได้สอบถามไปยัง Europol เพื่อยืนยันข้อเท็จจริง ซึ่งโฆษกของหน่วยงานได้ยอมรับเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่าไม่มีข้อบ่งชี้ถึงการถูกบุกรุกของระบบสารสนเทศ โดย เยาวชนถูกชักชวนผ่านแพลตฟอร์ม Telegram และถูกจับกุมภายหลังจากที่หน่วยข่าวกรองและความมั่นคงทั่วไปของเนเธอร์แลนด์ (AIVD) ได้ส่งสัญญาณเตือน ทั้งนี้ เยาวชนรายหนึ่งถูกจับกุมขณะอยู่ที่บ้าน โดยบิดามารดามิได้รับทราบถึงพฤติกรรมดังกล่าวมาก่อน
คดีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการรับสมัครบุคคลระดับเยาวชนหรือผู้ที่ไม่มีความเชี่ยวชาญมากนัก เพื่อปฏิบัติภารกิจให้แก่หน่วยข่าวกรองต่างชาติ ซึ่งก่อนหน้านี้มีรายงานพบในประเทศเยอรมนี โดยเยาวชนบางส่วนได้รับค่าตอบแทนจากสายลับรัสเซียเพื่อก่ออาชญากรรมไซเบอร์และทำลายโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ
สำหรับอุปกรณ์ดักจับสัญญาณ Wi-Fi เป็นอุปกรณ์ที่สามารถระบุเครือข่ายไร้สายโดยการตรวจจับสัญญาณวิทยุ และสามารถสกัดกั้นการสื่อสารข้อมูลได้ โดยปกติจะถูกนำมาใช้ในการปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ ทั้งนี้ มีรายงานจาก Volexity เมื่อปี 2567 ว่า กลุ่มผู้ไม่หวังดีซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐรัสเซีย หรือ APT28 สามารถดำเนินการโจมตีเครือข่าย Wi-Fi จากระยะไกล โดยใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า “การโจมตีเพื่อนบ้านที่ใกล้ที่สุด” (Near Neighbour Attack) เพื่อแทรกซึมเข้าสู่ระบบของบริษัทในสหรัฐฯ ผ่านเครือข่ายไร้สายขององค์กรใกล้เคียง