เมียนมา
ระบุเมื่อ 14 ม.ค.65 ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 126 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน 3 ราย ทั้งนี้ เมียนมามีผู้ติดเชื้อ COVID-19 สะสม 532,851 ราย เป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน 66ราย และเสียชีวิต 19,299 ราย
ระบุเมื่อ 14 ม.ค.65 ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 126 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน 3 ราย ทั้งนี้ เมียนมามีผู้ติดเชื้อ COVID-19 สะสม 532,851 ราย เป็นผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอน 66ราย และเสียชีวิต 19,299 ราย
ระบุเมื่อ 14 ม.ค.65 จะผ่อนปรนมาตรการ Lockdown บางส่วน ใน 15 ม.ค.65 โดยจะอนุญาตให้ร้านค้า ร้านทำผม ยิม และมหาวิทยาลัย และผู้ค้าประเวณี เปิดทำการได้
ระบุเมื่อ 14 ม.ค.65 ผ่อนปรนมาตรการควบคุมโรค COVID-19 โดยอนุญาตให้ประชาชนรวมกลุ่มไม่เกิน 6 คน เพิ่มขึ้นจาก 4 คน แต่ยังคงกำหนดให้ร้านอาหารและร้านกาแฟให้บริการได้ถึงเวลา 21.00 น. โดยมีผลบังคับใช้ถึง 6 ก.พ.65
ระบุเมื่อ 14 ม.ค.65 ฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เข็มแรก ให้เยาวชนอายุ 15-18 ปี แล้วมากกว่า 31.4 ล้านคน หรือร้อยละ 42 ของประชากรช่วงอายุดังกล่าวทั้งประเทศ โดยอินเดียตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมร้อยละ 80-85 ของกลุ่มเยาวชนช่วงอายุ 15-17 ปี ซึ่งมีประมาณ 74 ล้านคน ภายใน 31 ม.ค.65
ระบุเมื่อ 13 ม.ค.65 สถาบันการแพทย์ 3 แห่ง ร่วมสนับสนุนโครงการวิจัยเพื่อทดสอบประสิทธิภาพการใช้วัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ที่ไม่ใช่วัคซีน mRNA เป็นวัคซีนเข็มกระตุ้น เปรียบเทียบกับกลุ่มที่ได้รับวัคซีน mRNA ชนิดเดียวกันทั้งสามเข็ม โดยคาดว่าจะสรุปผลการวิจัยได้ใน เม.ย.66
ระบุเมื่อ 13 ม.ค.65 แนะนำให้ใช้ยา 2 ชนิดในการรักษาผู้ป่วยโรค COVID-19 ได้แก่ 1) ยาบาริซิทินิบ (Baricitinib) ซึ่งเป็นยาที่ใช้รักษาโรคภูมิต้านเนื้อเยื่อของตนเอง มะเร็งเม็ดเลือดขาว และโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง และ 2) ยาโซโทรวิแมบ (Sotrovimab) สำหรับผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง
ประกาศเมื่อ 13 ม.ค.65 จะผ่อนคลายมาตรการกักตัวผู้ติดเชื้อ COVID-19 ที่ไม่ใช่กลุ่มเสี่ยงสูง ตั้งแต่ 17 ม.ค.65 โดยให้กักตัวอย่างน้อย 5 วัน และให้พ้นการกักตัวหากตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK ในวันที่ 5 และ 6 ให้ผลเป็นลบติดต่อกัน 2 วัน และไม่มีไข้
ระบุเมื่อ 13 ม.ค.65 ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอมิครอนแล้ว 5,488 ราย ใน 28 รัฐ/ดินแดนสหภาพ จากทั้งหมด 36 แห่ง (28 รัฐ และ 8 ดินแดนสหภาพ) โดยพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวมากที่สุด ได้แก่ 1) รัฐมหาราษฏระ 1,367 ราย 2) รัฐราชสถาน 792 ราย 3) ดินแดนสหภาพเดลี 549 ราย 4) รัฐเกรละ 486 ราย และ 5) รัฐกรณาฏกะ 479 ราย ซึ่งอินเดียตรวจพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ดังกล่าวเป็นครั้งแรกเมื่อ 2 ธ.ค.64 ที่รัฐกรณาฏกะ
ระบุเมื่อ 12 ม.ค.65 อนุมัติใช้วัคซีน Novavax ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ชนิดที่ 5 ที่เกาหลีใต้อนุมัติใช้ในประเทศ เพิ่มเติมจากวัคซีน AstraZeneca วัคซีน Pfizer วัคซีน Moderna และวัคซีน Johnson & Johnson
ระบุเมื่อ 12 ม.ค.65 รัฐสภามีมติให้สมาชิกรัฐสภาที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เข็มกระตุ้น ต้องแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน หรือใบรับรองแพทย์ที่แสดงว่าหายจากโรค COVID-19 พร้อมผลตรวจหาเชื้อ COVID-19 ด้วยวิธี PCR ที่แสดงผลไม่พบเชื้อ ก่อนเข้าห้องประชุม โดยอยู่ระหว่างกำหนดอัตราโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืน ซึ่งในเบื้องต้นมีการเสนอโทษปรับ 1,000 ยูโร (ประมาณ 38,120 บาท) สำหรับความผิดครั้งแรก และ 2,000 ยูโร (ประมาณ 76,240 บาท) สำหรับการกระทำความผิดซ้ำ รวมทั้งอาจสั่งห้ามสมาชิกผู้กระทำผิดเข้าพื้นที่รัฐสภา