ระบุเมื่อ 6 ธ.ค.64 บริษัท BioAcumen Global ของสิงคโปร์ สามารถผลิตชุดตรวจ PCR สำหรับตรวจหาเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอนเป็นที่แรกของโลก ซึ่งมีความแม่นยำและรวดเร็วกว่าชุดตรวจ PCR แบบปกติ ซึ่งต้องใช้ผลการตรวจยืนยันผ่านกระบวนการถอดลำดับพันธุกรรมอีกครั้ง
ระบุเมื่อ 6 ธ.ค.64 พบการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอนในระดับชุมชนมากกว่าผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ ปัจจุบันพบผู้ติดเชื้อสายพันธุ์โอไมครอนแล้ว 336 ราย (อังกฤษ 261 ราย สกอตแลนด์ 71 ราย และเวลส์ 4 ราย)
ระบุเมื่อ 6 ธ.ค.64 จะสั่งปิดสถานบริการกลางคืน เช่น ผับ บาร์ เป็นเวลา 1 เดือน ตั้งแต่ 10 ธ.ค.64 เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 และลดความเสี่ยงติดเชื้อในชุมชนของสายพันธุ์โอไมครอน เฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเยาวชน
ระบุเมื่อ 6 ธ.ค.64 เริ่มใช้มาตรการ Lockdown สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 หรือฉีดไม่ครบโดส โดยเพิ่มความเข้มงวดการแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีน หรือ COVID Super Green Pass ก่อนเข้ารับบริการในพื้นที่สาธารณะ เช่น ร้านอาหาร บาร์ โรงภาพยนตร์ และโรงละคร จนถึงกลาง ม.ค.65
ระบุเมื่อ 5 ธ.ค.64 กำหนดให้บุคลากรที่ปฏิบัติงานในองค์กร 24 ประเภท ต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ครบโดส อย่างน้อย 14 วัน อาทิ สถานศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษา สถานดูแลผู้สูงอายุ ร้านเกม และร้านคาราโอเกะ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค.65
ระบุเมื่อ 5 ธ.ค.64 ยืนยันผลการตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอน 11 ราย และอยู่ระหว่างพิจารณาอนุมัติการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เข็มที่ 4 ให้กับกลุ่มเสี่ยงคาดว่า จะจัดประชุมเพื่อพิจารณาประเด็นดังกล่าวใน 7 ธ.ค.64
ระบุเมื่อ 5 ธ.ค.64 ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอนมากถึง 1 ใน 3 ของผู้ติดเชื้อรายใหม่ แต่เชื้อ COVID-19 สายพันธุ์เดลตายังคงเป็นสายพันธุ์หลักที่แพร่ระบาดในสหรัฐฯ
ระบุเมื่อ 5 ธ.ค.64 อนุญาตให้ผู้ฉีดวัคซีน Sputnik V ของรัสเซีย เดินทางเข้าประเทศได้ ตั้งแต่ 1 ม.ค.65
ระบุเมื่อ 5 ธ.ค.64 ประมาณการความเสียหายทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 รวมมูลค่า 847,000,000 ล้านด่งเวียดนาม (ประมาณ 3,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
ระบุเมื่อ 5 ธ.ค.64 ยืนยันผลการตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์โอไมครอน ที่นครซิดนีย์ จำนวน 5 ราย ซึ่งเป็นการแพร่ระบาดในระดับชุมชน