นิวซีแลนด์
ระบุเมื่อ 6 พ.ย.64 ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 206 ราย สูงที่สุดตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยตรวจพบมากที่สุดที่นครโอ๊คแลนด์ 200 ราย
คอสตาริกา
ระบุเมื่อ 6 พ.ย.64 จัดซื้อวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 จากบริษัท Pfizer จำนวน 3.5 ล้านโดส ในจำนวนนี้จะใช้สำหรับฉีดให้เด็กอายุ 5-11 ปีทุกรายจำนวน 1.5 ล้านโดส โดยจะเริ่มฉีดใน มี.ค.65 และใช้สำหรับฉีดเป็นเข็มกระตุ้นให้กลุ่มเสี่ยงอีก 2 ล้านโดส
สหรัฐฯ
ระบุเมื่อ 5 พ.ย.64 ถึงผลการศึกษาการใช้ยา Paxlovid ซึ่งเป็นยารักษาโรค COVID-19 ชนิดรับประทานของบริษัท Pfizer พบว่า ยามีประสิทธิภาพในการลดความเสี่ยงที่ผู้ติดเชื้อจะต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือเสียชีวิต ร้อยละ 89 หากรับประทานยาภายใน 3 วันหลังแสดงอาการ
ฝรั่งเศส
ประกาศเมื่อ 5 พ.ย.64 จะบังคับใช้ข้อกำหนดให้ประชาชนต้องแสดงเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 หรือผลตรวจหาเชื้อ COVID-19 ที่ไม่พบเชื้อ หรือเอกสารรับรองการหายจากโรค COVID-19 เมื่อเข้าใช้บริการสถานที่ต่าง ๆ อาทิ ร้านอาหาร บาร์ และโรงภาพยนตร์ ต่อเนื่องจนถึง 31 ก.ค.65
เยอรมนี
ระบุเมื่อ 5 พ.ย.64 เชิญชวนประชาชนที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ครบโดสแล้วอย่างน้อย 6 เดือน เข้ารับวัคซีนเข็มกระตุ้น หลังเยอรมนีเริ่มเข้าสู่การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ระลอกที่ 4
ญี่ปุ่น
ระบุเมื่อ 5 พ.ย.64 จะลดเวลากักตัวสำหรับชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าญี่ปุ่นเพื่อติดต่อธุรกิจเหลือ 3 วัน จากเดิม 10 วัน ตั้งแต่ 8 พ.ย.64
บรูไน
ระบุเมื่อ 5 พ.ย.64 จะเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ของบริษัท Pfizer-BioNTech ให้เด็กอายุ 12-17 ปี ซึ่งมีจำนวนกว่า 38,000 คน ตั้งแต่ 8 พ.ย.64 โดยตั้งเป้าจะฉีดให้แล้วเสร็จใน 2 สัปดาห์
สหรัฐฯ
ประกาศมาตรการบังคับฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เมื่อ 4 พ.ย.64 ได้แก่ 1) ให้ลูกจ้างในสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 100 คนขึ้นไป ฉีดวัคซีนครบโดสภายใน 4 ม.ค.65 และ 2) ให้ผู้ปฏิบัติงานในสถานพยาบาลและศูนย์ดูแลคนชราที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพ Medicare และ Medicaid ของรัฐบาลสหรัฐฯ ต้องฉีดวัคซีนครบโดส
สหราชอาณาจักร
ระบุเมื่อ 4 พ.ย.64 รับรองการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ (Molnupiravir) ซึ่งเป็นยารักษาโรค COVID-19 ของบริษัท Merck ของสหรัฐฯ ที่พัฒนาร่วมกับบริษัท Ridgeback Biotherapeutics
ฟิลิปปินส์
ระบุเมื่อ 4 พ.ย.64 ผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ในมะนิลา ระยะแรกระหว่าง 5-21 พ.ย.64 โดยอนุญาตให้สถานประกอบการ อาทิ บาร์ ร้านคาราโอเกะ และโรงละคร เปิดดำเนินการได้ แต่จำกัดจำนวนผู้ใช้บริการที่ร้อยละ 50 กรณีตั้งอยู่ในอาคาร และร้อยละ 70 กรณีตั้งอยู่ในพื้นที่เปิด