นาทีนี้สงครามความขัดแย้งในตะวันออกกลางได้ยกระดับขึ้นแล้ว จากเดิมระหว่างอิสราเอลกับลูกไล่ของอิหร่าน ได้แก่ ฮามาส กับฮิซบอลล่าห์ มาเป็นอิสราเอลกับอิหร่านเอง การที่ลูกพี่เม้มปากพับแขนเสื้อโดดออกมาเล่นเองต้องถือว่าความขัดแย้งยกระดับ ถ้าเป็นมวยก็ได้เวลาคู่เอกออกมาซัดกันแล้ว ย้อนดูเหตุการณ์ ความขัดแย้งรอบใหม่เริ่มเมื่อ 7 ตุลาคมปีที่แล้วเมื่อกำลังติดอาวุธของฮามาสบุกเข้ามาในดินแดนอิสราเอลตอนใต้สังหารชาวยิวและชาติอื่นๆ ไปราว 1,200 คน แถมยังจับตัวประกันไปอีก 250 คน จากนั้นอิสราเอลก็ตอบโต้ด้วยการส่งกำลังภาคพื้นดินบุกเข้ากาซ่าเพื่อทำลายโครงสร้างของฮามาส ทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปจนถึงปัจจุบันประมาณ 41,000 คน ขณะที่กำลังรบกับฮามาสทางด้านใต้อยู่นั้น ทางด้านเหนืออิสราเอลก็แลกเปลี่ยนการยิงจรวดโจมตีกับกลุ่มฮิซบอลล่าห์ในเลบานอน เรียกได้ว่าถูกขนาบทั้งเหนือและใต้ซึ่งอิสราเอลสู้ไปก็ขู่ไป เรียกร้องให้อิหร่านที่สนับสนุนทั้ง 2 กลุ่ม ออกมาประจันหน้ากันแต่อิหร่านก็อดกลั้น ไม่ตกหลุมพรางต่อเสียงยั่วยุของอิสราเอล จนกระทั่ง 1 เมษายน อิสราเอลใช้จรวดนำวิถีถล่มสำนักงานกงสุลอิหร่านในซีเรียเป็นเหตุให้ผู้บัญชาการกองกำลังปฏิวัติอิสลามของอิหร่านกับนายทหารระดับสูงเสียชีวิตไป 7 ราย คราวนี้อิหร่าน “จะไม่ทน” สั่งยิงโดรนและขีปนาวุธโจมตีเป้าหมายทางทหารในอิสราเอลกว่า 300 ลูก ห้วง 13-14 เมษายน แต่อิสราเอลอ้างว่าสกัดได้ร้อยละ 99 แค่นั้นยังไม่พอ อิสราเอลยังหักหน้าอิหร่านด้วยการใช้สายลับลอบวางระเบิดสังหารอิสมาอิล ฮานิเย่ห์ ผู้นำฮามาสที่บ้านรับรองในกรุงเตหะราน ต่อมาอิสราเอลก็เอาอีก คราวนี้ตบหน้าฮิซบอลล่าห์ด้วยการลอบวางดินระเบิดใส่เพจเจอร์ที่ฮิซบอลล่าห์ใช้สื่อสารกันแทนมือถือแล้วสั่งจุดระเบิดพร้อมกันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 10 ราย บาดเจ็บราว…