..เป็นไปตามคาดเมื่ออิหร่านส่งฝูงโดรนกับขีปนาวุธเข้าถล่มเป้าหมายในอิสราเอลกว่า 300 ลูก เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมาแต่เกือบทั้งหมดถูกอิสราเอล สหรัฐ และอังกฤษยิงสกัดได้ก่อนที่จะสร้างความเสียหาย ในเมื่อทำอะไรเขาไม่ได้แสดงว่าได้มีการเตรียมการป้องกันไว้เป็นอย่างดี แล้วการโจมตีนี้ก็จะถูกใช้เป็นข้ออ้างให้ฝ่ายอิสราเอลโจมตีอิหร่านกลับที่ใหญ่กว่า มาดูลำดับเหตุการณ์เสียหน่อยว่าเป็นมากันอย่างไร เริ่มจากกองกำลังฮามาสบุกโจมตีพื้นที่ทางใต้ของอิสราเอลติดกับกาซาเมื่อ 7 ตุลาคม 2566 สังหารพลเรือนชาวอิสราเอลและต่างชาติไปราว 1,200 คน จับตัวประกันไป 250 คน อิสราเอลตอบโต้ด้วยการโจมตีทางอากาศใส่ฐานที่มั่นของฮามาสในกาซาตามด้วยส่งกำลังยึดพื้นที่เพื่อทำลายโครงสร้างฮามาสและช่วยตัวประกันแต่ก็ทำเกินกว่าเหตุ คือทำให้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตไปแล้ว 32,000 คน ตามตัวเลขของฮามาส นอกจากนี้การปิดล้อมพื้นที่ทำให้มีชาวปาเลสไตน์ที่อาจต้องอดตายเป็นแสนๆ คน ต่อมาเมื่อ 1 เมษายน อิสราเอลโจมตีสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่อิหร่านเสียชีวิต 7 คน ในจำนวนนี้ 2 คนเป็นระดับผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลาม IRGC ซึ่งทูตอิหร่านบอกว่าอิสราเอลใช้จรวด 6 ลูกโจมตีมาจากเครื่องบินขับไล่ F-35 ดังนั้นการโจมตีกลับของอิหร่านด้วยโดรนเมื่อคืนก่อนจึงมุ่งไปที่ฐานทัพ F-35 ในขณะที่อิสราเอลเคยให้เหตุผลที่สังหารนายทหาร IRGC ว่าเป็นเพราะเขาเป็นคนที่วางแผนให้ฮามาสโจมตีอิสราเอลเมื่อ 7 ตุลาคม ปีที่แล้ว หลังการโจมตีอิสราเอลของอิหร่านสหรัฐออกมาปกป้องอิสราเอลทันทีและว่าจะประชุม G7 เพื่อหาทางจำกัดวงความขัดแย้ง ส่วนพันธมิตรในยุโรปอย่างอังกฤษ ฝรั่งเศส เยอรมัน…