ในซอยเล็ก ๆ กลางไทเป ไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าซ่งเจียงหนานจิง เป็นที่ตั้งของรูปปั้นเทพเจ้าฮินดู สิ่งศักดิ์สิทธิ์จากอินเดียที่กำลังมีบทบาทต่อการเสริมสร้างพลังใจให้ชาวใต้หวัน โดยเฉพาะคนรุ่นหนุ่มสาว พื้นที่เล็ก ๆ บริเวณหัวมุมถนนคลุมไว้ด้วยเต๊นท์ผ้าใบสีแดงสด ปิดบังบรรยากาศภายในไว้ด้วยกระถางใส่ดอกไม้สดนับร้อยช่อ และพวงมาลัยเจ็ดสีหลายศอกแขวนยาวเป็นพืด ให้อารมณ์เหมือนเป็นร้านขายดอกไม้ที่ปากคลองตลาดผสมกับศาลใต้ต้นไทรท้ายซอย ต้องเดินผ่านประตูรั้วและมองทะลุควันธูปเข้าไป จึงจะเห็นว่าเป็น “พระพรหม” ที่ประดิษฐานเป็นประธานอยู่ข้างในนั้น ตามที่ชื่อสถานที่บอกไว้ว่าที่แห่งนี้คือ “Changchun Phra Phrom” หรือศาลพระพรหมฉางชุน ผมเจอสถานที่แห่งนี้โดยบังเอิญบน Google Map ขณะเดินเล่นที่ไต้หวัน สิ่งที่เตะตาจนสงสัยและถึงกับต้องตามไปดูของจริงก็ด้วยการสะกดคำว่าพระพรหมตามแบบราชบัณฑิตไทยว่า “Phra Phrom” ซึ่งต่างจากการสะกดว่า “Brahma” ตามแบบสากล ซึ่งทำให้อนุมานได้ว่าน่าจะเป็นพระพรหมที่ไต้หวันได้อิทธิพลมาจากไทยมากกว่าอินเดีย ก็เลยสงสัยขึ้นมาถึงที่มาที่ไปว่าพระพรหมของไทยมาโผล่อะไรเอาตรงนี้ ในซอยเล็กริมถนนใหญ่ที่เป็นย่านธุรกิจสำคัญของไทเป เมื่อเดินหลุดผ่านรั้วเข้าไปในศาลพระพรหมฉางชุน เหมือนกับว่าผ่านประตูทะลุมิติโผล่ที่ไทย บรรยากาศบ้านเมืองแบบไต้หวันที่เคยรายรอบหายไป แทนที่ด้วยสิ่งแวดล้อมคุ้นตา พระพรหมสี่หน้า กระถางธูป ดอกดาวเรือง เครื่องทองเหลือง ฯลฯ ประกอบกันแล้วเหมือนเป็นศาลศักดิ์สิทธิ์ในมุมหนึ่งของกรุงเทพมหานคร มีเพียงชาวไต้หวันเป็นสิ่งยืนยันว่าตอนนี้ยังอยู่บนแผ่นดินไต้หวัน ตลอดเวลาที่ผมอยู่ที่นั่น ศาลเล็ก ๆ แห่งนี้มีชาวไต้หวันที่ศรัทธาเดินเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ประมาณด้วยสายตาแล้วส่วนใหญ่เป็นหนุ่มสาววัยทำงานหรือกำลังเรียน…