มาเลเซีย
ประกาศเมื่อ 30 ก.ย.64 ให้บุคลากรภาครัฐทุกคนต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ภายใน1 พ.ย.64 ยกเว้นผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพที่มีเอกสารรับรองทางการแพทย์ หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษทางวินัยปัจจุบัน ข้าราชการมาเลเซียฉีดวัคซีนแล้วร้อยละ 98
ประกาศเมื่อ 30 ก.ย.64 ให้บุคลากรภาครัฐทุกคนต้องฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ภายใน1 พ.ย.64 ยกเว้นผู้ที่มีปัญหาด้านสุขภาพที่มีเอกสารรับรองทางการแพทย์ หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษทางวินัยปัจจุบัน ข้าราชการมาเลเซียฉีดวัคซีนแล้วร้อยละ 98
ประกาศเมื่อ 30 ก.ย.64 ขยายเวลาบังคับใช้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทั่วประเทศ อีก 15 วัน ระหว่าง 1-15 ต.ค.64 โดยยังคงมาตรการสำคัญ อาทิ ปิดสถานบันเทิง ห้ามออกนอกเคหสถานระหว่าง 22.00-05.00 น. ในนครหลวงเวียงจันทน์ และแขวงที่พบการแพร่ระบาดของเชื้อในชุมชน
ระบุเมื่อ 30 ก.ย.64 มีแผนจะเปิดเกาะบาหลีภายใน ต.ค.64 เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 4 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย สหรัฐฯ เยอรมนี และสหราชอาณาจักร หลังควบคุมการแพร่ระบาดของโรคCOVID-19 ได้ในระดับที่น่าพอใจ และมีผู้ติดเชื้อลดลง
คำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญไต้หวันเมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ทำให้ไต้หวันก้าวหน้ากว่าใครในเอเชียในด้านความเท่าเทียมทางเพศ เพราะนำไปสู่การออกกฎหมายการสมรสของเพศเดียวกันฉบับแรกในเอเชีย ที่อนุญาติให้บุคคลที่มีเพศสรีระ (sex หรือการแบ่งคนเป็นหญิง-ชายตามหลักชีววิทยา) เดียวกันแต่งงานกันได้ คำตัดสินครั้งนั้นบอกว่าการห้ามการสมรสของเพศเดียวกันเป็นการกระทำที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ และขีดเส้นเวลากำหนดให้รัฐบาลไต้หวันต้องรีบดำเนินการให้คนที่มีเพศสรีระเดียวกันแต่งงานกันได้ภายใน ๒ ปี ซึ่งรัฐบาลพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (Democratic Progressive Party-DPP) ของประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ก็บังคับใช้กฎหมายที่ว่าเมื่อ 24 พฤษภาคม 2562 และชาว LGBT ของไต้หวันก็ตอบรับอย่างดีด้วยการแต่งงานกันตามกฎหมายดังกล่าวแล้วถึง 4,021 คู่ เป็นเพศสรีระชาย 1,248 คู่ และหญิง 2,773 คู่ (ข้อมูลเมื่อพฤษภาคม 2563) เส้นทางของชัยชนะของกลุ่ม LGBT ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพรรค DPP ผลักดันกฎหมายฉบับนี้ตั้งแต่ปี 2549 ซึ่งก็สอดคล้องกับอุดมการณ์และฐานเสียงทางการเมืองของพรรค DPP ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่หัวก้าวหน้า ขณะที่กลุ่ม LGBT ในไต้หวันก็รวมตัวเป็นองค์กรภาคประชาชนร่วมผลักดันการออกกฎหมาย เช่น เครือข่าย Taiwan Alliance to Promote Civil Partnership…
ปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างจีน-ญีปุ่นกลับมาปะทุอีกครั้งหลังนาย โนบุโอะ คิชิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ CNN ถึงข้อกังวลเกี่ยวกับความพยายามของจีนในการรุกล้ำเข้าไปในเขตหมู่เกาะเซ็งกากุ หรือที่จีนเรียกว่าหมู่เกาะเตียวหยู โดยหมู่เกาะดังกล่าวเป็นหมู่เกาะพิพาทระหว่าง 2 ประเทศมานาน โดยความขัดแย้งระหว่างจีนและญี่ปุ่นเหนือหมู่เกาะนี้เริ่มมีความรุนแรงอย่างมากนับตั้งแต่ปี 2555 ซึ่งในเวลานั้นความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศย่ำแย่จนถึงขนาดมีชาวจีนออกมาเดินขบวนทั่วประเทศ และเรียกร้องให้รัฐบาลจีนยึดหมู่เกาะดังกล่าวคืนจากญี่ปุ่น มีการทำลายธุรกิจและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นที่ดำเนินการในจีนจำนวนมาก ปัญหากรรมสิทธิ์เหนือหมู่เกาะนี้เป็นผลมาจากมุมมองทางประวัติศาสตร์และข้อกฎหมายระหว่างประเทศที่แตกต่างกันซึ่งนับย้อนไปได้ไกลถึงยุคราชวงศ์หมิงที่จีนระบุว่าจีนอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะดังกล่าวมาโดยตลอด จนกระทั่งถึงในยุคสงครามจีน-ญี่ปุ่นครั้งที่ 1 อันเป็นเหตุให้ญี่ปุ่นใช้กำลังเข้ายึดหมู่เกาะดังกล่าว และมีการลงนามในสนธิสัญญาชิโมโนเซกิ ในปี 2438 หลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 2 ญี่ปุ่นต้องคืนดินแดนจำนวนมากตามสนธิสัญญาชิโมโนเซกิให้กับจีน อย่างไรก็ตามหมู่เกาะที่เป็นปัญหานั้นเนื่องจากไม่อยู่ในสนธิสัญญาดังกล่าวส่งผลให้เกิดปัญหาอำนาจสิทธิของจีน และสหรัฐอเมริกาเลือกที่จะผนวกรวมพื้นที่ดังกล่าวให้อยู่ในกำกับดูแลของตนหลังสงครามโลก ก่อนที่จะส่งคืนให้ญี่ปุ่นในปี 2514 อันนำมาซึ่งการพิพาทระหว่างจีนและญี่ปุ่น ในเวลานั้นทั้งจีนแผ่นดินใหญ่และจีนไทเปต่างประท้วงเรื่องดังกล่าว และอ้างสิทธิของตัวเองเหนือหมู่เกาะดังกล่าวเช่นเดียวกัน แต่ด้วยศักยภาพทางเศรษฐกิจและการทหารที่ด้อยกว่าทำให้ทั้ง 2 จีนทำได้เพียงอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะพิพาทเท่านั้น เติ้งเสี่ยวผิง ผู้นำจีนขณะนั้นถึงกับกล่าวว่า “คงต้องปล่อยให้ลูกหลานของเรามาจัดการกับปัญหานี้” และดูเหมือนว่าคำของเติ้งเสี่ยวผิงจะเป็นจริง เพราะนับตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นมา ท่าทีของจีนก็ดูจะแข็งกร้าวต่อปัญหาหมู่เกาะแห่งนี้มากยิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการส่งเรือประมง และยามฝั่งเข้าไปในน่านน้ำทะเลอาณาเขตซึ่งญี่ปุ่นอ้างสิทธิเหนือหมู่เกาะแห่งนี้ ทำให้รัฐมนตรีกลาโหมของญี่ปุ่นออกมาปรามจีนว่าการกระทำดังกล่าวมีแต่จะบั่นทอนความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ชาติ แต่สำหรับจีนแล้วจีนมองว่านี่คือสิทธิโดยธรรมชาติ…
กระแสข่าวด้านการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับประเทศจีนในเวลานี้คงหนีไม่พ้นการปฏิรูประบบการศึกษาและปรับเปลี่ยนหลักสูตรการเรียนการสอนของพรรคคอมมิวนิสต์เกี่ยวกับการบรรจุเนื้อหาวิชาว่าด้วย “ความคิดของสีจิ้นผิงเกี่ยวกับลัทธิสังคมนิยมที่มีลักษณะแบบจีนสำหรับยุคใหม่” ซึ่งเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมาวิชานี้ได้รับการบรรจุอย่างเป็นทางการในแบบเรียนเป็นครั้งแรก รัฐบาลจีนโดยกระทรวงศึกษาธิการให้เหตุผลสำคัญเกี่ยวกับการบรรจุวิชานี้ลงไปในหลักสูตรว่า “การบรรจุวิชานี้จะช่วยให้เยาวชนได้รับการปลูกฝังเกี่ยวกับลัทธิมาร์กซ์ และเสริมสร้างความมั่นใจในแนวทาง ทฤษฎี ระบบ และวัฒนธรรมของสังคมนิยมที่มีลักษณะจีน” แน่นอน โดยเนื้อหาของรายวิชานี้จะถูกบรรจุอยู่ในหลักสูตรของนักเรียนและนักศึกษาทุกระดับชั้น โดยหลักสูตรในระดับประถมศึกษาจะมุ่งเน้นไปที่การปลูกฝังความรักชาติ พรรคคอมมิวนิสต์และอุดมการณ์สังคมนิยม ในขณะที่หลักสูตรของนักเรียนมัธยมจะถูกเน้นไปที่การผสมผสานทางด้านการรับรู้เชิงประสบการณ์และองค์ความรู้จากการศึกษา เพื่อวางรากฐานความเข้าใจทางการเมืองให้เยาวชนเหล่านี้ ซึ่งในระดับมหาวิทยาลัยจะเป็นการเน้นไปที่การวิเคราะห์และทำความเข้าใจในเชิงทฤษฎี ความพยายามครั้งใหม่ของรัฐบาลจีนครั้งนี้ถือเป็นการผลักดันและส่งเสริมแนวคิดสังคมนิยมแบบจีนให้เป็นที่แพร่หลายในกลุ่มเยาวชนที่มากยิ่งขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงแล้ววิชาในลักษณะนี้ของจีนนั้นมีการบรรจุในแบบเรียนของจีนอยู่แล้ว และไม่ใช่เรื่องใหม่แต่อย่างใดสำหรับประเทศจีน ต่างกันเพียงแค่ในครั้งนี้มีการบรรจุแนวคิดของผู้นำคนล่าสุดลงไปเท่านั้น ซึ่งไม่ค่อยปรากฏมาก่อนในทางการเมืองจีนเท่าไหร่นัก จริง ๆ แล้วความพยายามของพรรคคอมมิวนิสต์ในการส่งเสริมแนวคิดของสีจิ้นผิงให้เป็นที่แพร่หลายในหมู่ประชาชนจีนนั้นเริ่มทำกันมานานพอสมควรแล้ว หนึ่งในเอกสารชิ้นสำคัญคือการออกหนังสือชุด จำนวน 3 เล่มในชื่อ “Xi Jinping The Governance of China” ซึ่งเป็นหนังสือที่รวบรวมถ้อยแถลงต่าง ๆ ของประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ในโอกาสและวาระต่าง ๆ ออกมาเป็นรูปเล่มเพื่อเผยแพร่ หนังสือชุดนี้ถือเป็นภาพสะท้อนและอธิบายเกี่ยวกับแนวคิดของสีจิ้นผิงได้เป็นอย่างดีเกี่ยวกับแนวทางการพัฒนาประเทศจีน และถือเป็นตำราที่สำคัญซึ่งถูกใช้ในการสอนวิชาใหม่นี้ในระดับมหาวิทยาลัย ฉะนั้นจะเห็นว่าวิชาดังกล่าวนั้นเป็นเพียงการจัดระบบการทำความเข้าใจระบบสังคมนิยมในลักษณะแบบจีนใหม่เท่านั้น ที่สำคัญคือวิชาดังกล่าวได้เคยมีการนำร่องสอนในบางพื้นที่ของประเทศมาก่อนหน้านี้แล้วด้วย หากนำปัจจัยต่าง ๆ ข้างต้นมาพิจารณาวิเคราะห์จะเห็นได้ว่าการบรรจุวิชา “ความคิดของสีจิ้นผิงเกี่ยวกับลัทธิสังคมนิยมที่มีลักษณะแบบจีนสำหรับยุคใหม่” ลงในแบบเรียนของจีนนั้นเป็นวิวัฒนาการทางการศึกษาแนวคิดสังคมนิยมของจีนที่มีมาตลอดอยู่แล้ว…
เนปาลประเทศเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขาหิมาลัย มีเพื่อนบ้านเพียง 2 ประเทศคือ อินเดีย และจีน ขนาดเศรษฐกิจของประเทศแห่งนี้ไม่ใหญ่มาก และถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศพัฒนาน้อย หลายปีที่ผ่านมาเนปาลได้รับเงินช่วยเหลือจำนวนมากจากภายนอก ทั้งจากเพื่อนบ้าน และองค์การระหว่างประเทศ ที่ต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในประเทศแห่งนี้ แต่ประเทศเล็ก ๆ แห่งนี้ก็มีความน่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันในหน้าประวัติศาสตร์โลก เพราะในช่วงปี 2539-2549 ประเทศแห่งนี้เกิดสงครามกลางเมืองที่เป็นการต่อสู้กันทางอุดมการณ์ทางการเมืองระหว่างกลุ่มนิยมระบอบประชาธิปไตยจากการเลือกตั้ง และขบวนการเคลื่อนไหวเหมาอิสต์ที่ต้องการเปลี่ยนให้ประเทศเป็นระบอบสังคมนิยม การหยิบอาวุธขึ้นต่อสู้กันที่กินเวลาเกือบ 10 ปี ส่งผลให้ประเทศเนปาลถอยหลังเป็นอย่างมาก และประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินมากมายมหาศาล กลายเป็นบาดแผลของหลายครัวเรือนที่ยังคงติดตรึงมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างไรก็ตามหลังการเจรจาสมานฉันท์ และผลักดันให้ขบวนการเคลื่อนไหวเหมาอิสต์หันหน้ามาทำการเมืองในระบอบประชาธิปไตยได้สำเร็จหลังสิ้นสุดสงครามเย็น อุดมการณ์คอมมิวนิสต์ก็งอกเงยในแผ่นดินแห่งนี้อย่างมาก ในหลายครั้ง หลายวาระพรรคฝ่ายซ้ายของเนปาลประสบความสำเร็จอย่างมากในการเลือกตั้ง และได้จัดตั้งรัฐบาล เช่นเดียวกับการเลือกตั้งครั้งล่าสุดปี 2560 พรรคคอมมิวนิสต์เนปาล – มาร์กซิสต์-เลนินนิสต์ (Communist Party of Nepal–Unified Marxist-Leninist (CPN-UML)) ซึ่งนำโดยนายKP Sharma Oli และพรรคคอมมิวนิสต์เนปาล – เหมาอิสต์ (Communist…
สำนักข่าว Tolo news รายงานเมื่อ 29 ก.ย.64 ว่า นาย Zabihullah Mujahid รัฐมนตรีช่วยกระทรวงข้อมูลและวัฒนธรรมแถลงตำหนิสหรัฐฯ กรณีใช้โดรนปฏิบัติการทางอากาศต่อเป้าหมายสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายในอัฟกานิสถานว่าเป็นการละเมิดอธิปไตยของอัฟกานิสถานและเรียกร้องให้สหรัฐฯ เคารพกฎหมายระหว่างประเทศและหยุดรุกล้ำน่านฟ้าอัฟกานิสถาน ทั้งนี้แถลงการณ์ของนาย Zabihullah Mujahid เกิดขึ้นหลังจากสหรัฐฯ ระบุว่าไม่ต้องการความร่วมมือจากรัฐบาลตอลิบันในภารกิจต่อต้านการก่อการร้ายทางอากาศด้วยโดรน ทั้งนี้ มีรายงานว่าพลเรือนเสียชีวิตจำนวน 11 คน ในจังหวัด Herat และสมาชิก ISKP เสียชีวิต 7 คนในเมือง Nangarhar
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทมส์ รายงานเมื่อ 29 ก.ย.64 ว่า นายพันคำ วิพาวัน นายกรัฐมนตรีลาว สั่งการให้ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องนำระบบการจัดเก็บรายได้ดิจิทัลไปใช้ให้ครอบคลุม 17 แขวง และนครหลวงเวียงจันทน์ และ 65 เมืองของทุกแขวง ภายในปี 2565 อีกทั้งดำเนินการให้แล้วเสร็จทั่วประเทศภายในปี 2566 เพื่อปิดช่องทางรั่วไหลรายได้ภาครัฐ และเพิ่มรายได้ภาครัฐให้มากที่สุด นอกจากนี้ ให้จัดตั้งระบบการจัดการข้อมูลการเงินแบบรวมศูนย์ เพื่อให้รายได้และงบประมาณของภาครัฐผ่านการจัดการแบบรวมศูนย์ ซึ่งความพยายามจัดเก็บรายได้ดิจิทัลและบริหารการเงินแบบรวมศูนย์ดังกล่าว เป็นหนึ่งในแนวทางเพื่อบรรลุเป้าหมายแผนงบประมาณระยะ 5 ปี (2564 – 2568) และวาระแห่งชาติว่าด้วยการแก้ไขปัญหาทางการเงินและเศรษฐกิจของลาว ซึ่งรัฐบาลลาวมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายวาระแห่งชาติภายในปี 2566 ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีลาว มอบหมายให้กระทรวงการเงินทบทวนกฎหมายและกำหนดนโยบายที่จำเป็น เพื่อเพิ่มรายได้ของรัฐและลดการรั่วไหลของงบประมาณ รวมทั้งทำงานร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า ในการจัดการมาตรการนำเข้าและส่งออกเพื่อลดการสูญเสียรายได้ของภาครัฐ
หนังสือพิมพ์พนมเปญโพสต์ และ สำนักข่าวAKP ของทางการกัมพูชา รายงานเมื่อ 29 ก.ย.64 ว่า ธนาคารโลกปรับลดการประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาปี 2564 เมื่อ 28 ก.ย.64 ที่ร้อยละ 2.2 จากเมื่อ เม.ย.64 ที่คาดว่าจะเติบโตร้อยละ 4 และจะปรับตัวดีขึ้นเป็นร้อยละ 4.5 ในปี 2565 และร้อยละ 5.5 ในปี 2566 ตามลำดับ สอดคล้องกับที่รัฐบาลกัมพูชาปรับลดการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2564 จากร้อยละ 4.1 เป็นร้อยละ 2.5 โดยธนาคารโลกระบุว่า เศรษฐกิจกัมพูชายังมีความเสี่ยงและไม่แน่นอนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 โดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยว ก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ ที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก แต่ห้วงครึ่งหลังของปี 2564 เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้นอย่างช้า ๆ ขณะที่ภาคการเกษตรและการลงทุนมีความยืดหยุ่นสูง ส่วนภาคการส่งออกสินค้าปรับตัวดีขึ้นหลังมีอุปสงค์จากภายนอกเพิ่มขึ้น ด้านนาย Ly Sodeth นักเศรษฐศาสตร์ธนาคารโลกประจำกัมพูชา แนะนำให้กัมพูชาบังคับใช้นโยบายโดยอาศัยผลประโยชน์จากการทำข้อตกลงการค้าเสรีกับจีน กฎหมายการลงทุนใหม่ และเครื่องมืออื่น ๆ รวมถึงการลดต้นทุนการทำธุรกิจ…