ปากีสถาน
ประกาศเมื่อ 16 มี.ค.65 ยกเลิกมาตรการควบคุมโรค COVID-19 ทั้งหมด และจะยุบศูนย์บัญชาการและปฏิบัติการแห่งชาติ (NCOC) เพื่อแก้ไขปัญหา COVID-19 ใน 30 เม.ย.65
ประกาศเมื่อ 16 มี.ค.65 ยกเลิกมาตรการควบคุมโรค COVID-19 ทั้งหมด และจะยุบศูนย์บัญชาการและปฏิบัติการแห่งชาติ (NCOC) เพื่อแก้ไขปัญหา COVID-19 ใน 30 เม.ย.65
ระบุเมื่อ 16 มี.ค.65 จะอนุญาตให้ชาวออสเตรเลียเดินทางเข้าประเทศตั้งแต่ 12 เม.ย.65 เวลา 11.59 น. (เวลาท้องถิ่นนิวซีแลนด์) ส่วนผู้ที่เดินทางมาจากประเทศที่ได้รับการยกเว้นตรวจลงตรา เช่น สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เยอรมนี เกาหลีใต้ และสิงคโปร์ รวมทั้งผู้ถือตรวจลงตราประเภทท่องเที่ยว จะเริ่มเดินทางเข้านิวซีแลนด์ได้ใน 1 พ.ค.65 เวลา 11.59 น.
ประกาศเมื่อ 16 มี.ค.65 ยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ โดยกำหนดให้ผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศแสดงผลการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ที่แสดงผลไม่พบเชื้อ
ระบุเมื่อ 15 มี.ค.65 บริษัท Pfizer-BioNTech ยื่นเอกสารถึงองค์การอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) เพื่อขออนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เข็มกระตุ้นเข็มที่ 2 เป็นกรณีฉุกเฉินแก่ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่สุดต่อการติดเชื้อ COVID-19 รุนแรงแม้ว่าจะได้รับวัคซีนแล้ว
ระบุเมื่อ 15 มี.ค.65 ตั้งแต่ 16 มี.ค.65 จะปรับปรุงข้อปฏิบัติสำหรับผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศผ่านช่องทางพิเศษแบบ Vaccinated Travel Lane (VTL) ที่เดินทางมาจากกัมพูชา สิงคโปร์ และไทย ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ครบโดส โดยใช้วิธี Test and Release คือ ตรวจหาเชื้อที่ท่าอากาศยานและสามารถออกจากท่าอากาศยานได้ทันที จากเดิมที่ต้องรอทราบผลตรวจ
ระบุเมื่อ 15 มี.ค.65 จะอนุญาตสถานศึกษาทุกระดับชั้นกลับมาเปิดเรียนตามปกติตั้งแต่ 20 มี.ค.65
ตำรวจตระเวนชายแดน เมือง Jutland ของเดนมาร์ก ออกแถลงการณ์เมื่อ 15 มี.ค.65 ไม่อนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนที่ลี้ภัยในเยอรมนีและต้องการเดินทางไปสวีเดนและนอร์เวย์ ใช้เดนมาร์กเป็นทางผ่าน โดยเดนมาร์กดำเนินการส่งตัวผู้ลี้ภัยชาวยูเครนกลับไปยังเยอรมนีแล้วอย่างน้อย 250 ราย พร้อมทั้งยืนยันว่าเดนมาร์กจะเปิดรับเฉพาะผู้ลี้ภัยที่ขึ้นทะเบียนและแจ้งความประสงค์ขอลี้ภัยอย่างถูกต้องเท่านั้น เนื่องจากการอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยใช้เดนมาร์กเป็นประเทศทางผ่านจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงด้านความมั่นคง ทั้งนี้ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ประเมินว่ามีจำนวนผู้ลี้ภัยจากยูเครนแล้วอย่างน้อย 3 ล้านคน
สำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อ 15 มี.ค.65 ว่า นายกรัฐมนตรีจากประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) จำนวน 3 ประเทศ ได้แก่ นายกรัฐมนตรี Petr Fiala ของสาธารณรัฐเช็ก นายกรัฐมนตรี Mateusz Morawiecki ของโปแลนด์ และนายกรัฐมนตรี Janez Jansa ของสโลวีเนีย เป็นผู้แทนของคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) เดินทางเยือนกรุงเคียฟ ยูเครน เพื่อหารือกับประธานาธิบดี Volodymyr Zelenskyy ของยูเครน และแสดงจุดยืนว่า EU ยังคงสนับสนุนอธิปไตยและอิสรภาพของยูเครน โดยทั้งสามประเทศจะเพิ่มความช่วยเหลือให้ยูเครน ทั้งด้านการเมือง การเงิน ยุทโธปกรณ์ และด้านมนุษยธรรม
บริษัท Nigerian Agip Oil Company (NAOC) ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของไนจีเรียและอยู่ในเครือบริษัท Eni ของอิตาลี ระบุเมื่อ 14 มี.ค.65 ว่า เกิดเหตุระเบิดที่ท่อส่งน้ำมัน Ogoda/Brass 24 ของโรงงาน Okparatubo ในเขต Nembe รัฐ Bayelsa ทางตอนใต้ของไนจีเรีย ทำให้บริษัทต้องปิดบ่อน้ำมันที่เชื่อมกับท่อส่งน้ำมันดังกล่าว และทำให้ส่งออกน้ำมันได้ลดลงวันละ 25,000 บาร์เรล รวมทั้งยังมีน้ำมันดิบรั่วไหลประมาณ 1,250 บาร์เรลหรือ 166 ตัน อย่างไรก็ดี บริษัทไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเหตุระเบิด แต่พื้นที่ทางใต้ของไนจีเรียซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันที่สำคัญของประเทศ มักตกเป็นเป้าหมายของกลุ่มติดอาวุธในการก่อเหตุโจมตี ก่อวินาศกรรม และโจรกรรมบ่อยครั้ง โดยก่อนหน้านี้เมื่อ 28 ก.พ.65 เกิดเหตุโจมตีที่สถานีจ่ายน้ำมัน Obama ของบริษัท NAOC ทำให้ผลิตน้ำมันได้ลดลงวันละ 5,000 บาร์เรล
สำนักข่าวรอยเตอร์ส รายงานเมื่อ 14 มี.ค.65 ว่า สหภาพยุโรป (European Union -EU) อยู่ระหว่างการพิจารณาดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่อ บริษัท Rosneft จำกัด รัฐวิสาหกิจน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย บริษัทTransneftจำกัด และ บริษัทGazprom Neftจำกัด โดยบริษัททั้งสามจะไม่สามารถเข้าถึงการกู้ยืมจากสถาบันการเงินและแหล่งเงินทุน สำหรับการลงทุนโครงการสำรวจและผลิตพลังงานในอนาคต ตลอดจนการทำธุรกรรมทางการเงินกับสถาบันการเงินยุโรป อย่างไรก็ดี ประเทศยุโรปจะยังสามารถนำเข้าน้ำมันจากบริษัทดังกล่าวต่อไป เพื่อลดความเสี่ยงราคาพลังงานปรับตัวสูงขึ้น