เยอรมนี
ระบุเมื่อ 24 มี.ค.65 ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 318,387 ราย สูงที่สุดตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโรค COVID-19
ฟินแลนด์
ระบุเมื่อ 24 มี.ค.65 แนะนำให้ทางการท้องถิ่นฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เข็มที่ 4 ให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 80 ปีขึ้นไป ซึ่งมีประมาณ 300,000 คน เพื่อป้องกันการเจ็บป่วยรุนแรงและเสียชีวิต โดยเว้นระยะห่างจากเข็มที่ 2 เป็นเวลา 3 เดือน
ฟิลิปปินส์
ระบุเมื่อ 24 มี.ค.65 ฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 สำหรับใช้ในเด็กอายุ 5-11 ปี ของบริษัท Pfizer ของสหรัฐฯ ที่รัฐบาลฟิลิปปินส์จัดซื้อเพิ่มเติมอีก 936,000 โดส ก่อนหน้านี้ ฟิลิปปินส์ได้รับวัคซีนดังกล่าวแล้ว 942,000 โดส
มาเลเซีย
ระบุเมื่อ 24 มี.ค.65 ยังไม่มีแผนยกเลิกข้อกำหนดให้บุคคลสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะภายนอกอาคารเหมือนกับสิงคโปร์
ไต้หวัน
ระบุเมื่อ 24 มี.ค.65 สั่งจองวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ของบริษัท Novavax ของสหรัฐฯ จำนวน 2 ล้านโดส จากโครงการ COVAX ขององค์การอนามัยโลก (WHO) และพันธมิตร
G-7 เตือนว่ารัสเซียอาจใช้อาวุธชีวภาพ เคมี และอาวุธนิวเคลียร์ในยูเครน
G-7 เผยแพร่แถลงการณ์ร่วมเมื่อ 24 มี.ค.65 หลังการประชุมสุดยอด G-7 กรณีรัสเซีย-ยูเครน ที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม โดยเตือนว่า รัสเซียอาจใช้อาวุธชีวภาพ เคมี และนิวเคลียร์ ในการโจมตียูเครน พร้อมเรียกร้องรัสเซียให้ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ อีกทั้ง G-7 จะจำกัดธุรกรรมเกี่ยวกับทองคำของธนาคารกลางรัสเซีย ลดการพึ่งพาน้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน จากรัสเซีย พร้อมทั้งเรียกร้องให้องค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมันเป็นสินค้าออก (OPEC) เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันออกสู่ตลาดโลก นอกจากนี้ G-7 ยังระบุว่า สงครามที่ก่อโดยรัสเซียสร้างแรงกดดันให้กับความมั่นคงทางอาหารของโลก พร้อมให้คำมั่นจะแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับสินค้าเกษตรในประเทศกลุ่มเปราะบาง และเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควบคุมราคาสินค้าเกษตร ตลอดจนเรียกร้องให้องค์การระหว่างประเทศและการประชุมระดับพหุภาคีต่าง ๆ ยุติการดำเนินกิจกรรมร่วมกับรัสเซีย