เวียดนาม
ระบุเมื่อ 21 มี.ค.65 บรรลุข้อตกลงยอมรับร่วมในเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 กับมาเลเซีย
ระบุเมื่อ 21 มี.ค.65 บรรลุข้อตกลงยอมรับร่วมในเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 กับมาเลเซีย
ระบุเมื่อ 21 มี.ค.65 ยกเลิกมาตรการกักตัวผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศทั้งหมด หลังจากประสบความสำเร็จในการทดลองยกเลิกมาตรการกักตัวในบาหลี บาตัม และบินตัน นอกจากนี้ ยังตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ลดลงมากกว่าร้อยละ 90 เมื่อเทียบกับเมื่อช่วงกลาง ก.พ.65
หนังสือพิมพ์ Khmer Times ฉบับ 22 มี.ค.65 รายงานอ้างคำกล่าวของ นรม.ฮุน เซน เมื่อ 21 มี.ค.65 ว่า กัมพูชายังไม่มีแผนจะอพยพคนกัมพูชาในยูเครนจำนวน 23 คน กลับประเทศ เช่นเดียวกับที่ไม่รับนักเรียนกัมพูชาในจีนกลับประเทศเมื่อห้วงที่การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 รุนแรง โดยเห็นว่าการหลบหนีปัญหาไม่ใช่ทางออกที่ถูกต้อง คนยูเครนอาศัยในสถานการณ์เช่นนี้ได้ คนกัมพูชาก็ต้องอยู่ได้เช่นกัน พร้อมใช้โอกาสนี้ขอโทษจีนกรณีนักเรียนกัมพูชาในจีนเลือกเดินทางกลับประเทศห้วงที่เกิดการแพร่ระบาดหนัก ก่อนหน้าเมื่อ 28 ก.พ.65 นาย Chum Sounry โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของกัมพูชายืนยันว่า คนกัมพูชาในยูเครนยังปลอดภัย และสถานเอกอัครราชทูตกัมพูชา ณ กรุงมอสโก รัสเซียได้ช่วยอำนวยความสะดวกและแจ้งข้อมูลข่าวสารที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าว Tass.ru รายงานเมื่อ 22 มี.ค.65 อ้างเว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ยูเครนกรณีประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศหลายแห่งว่า ประธานาธิบดียูเครนพร้อมหารือกับประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เป็นครั้งแรก เกี่ยวกับปัญหาไครเมียและการยอมรับสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์และลูฮานสค์ ในภูมิภาคดอนบาส หากยูเครนได้รับการค้ำประกันความปลอดภัยและการสิ้นสุดของสงคราม ขณะที่ประเด็นข้อเรียกร้องให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ ไม่ใช่ประธานาธิบดีจะเป็นผู้ตัดสินเพียงคนเดียว แต่ทั้งรัฐสภาและชาวยูเครนทั้งหมด ทั้งนี้ เมื่อ 20 มี.ค.65 ประธานาธิบดียูเครนให้สัมภาษณ์สำนักข่าว CNN ว่า ยูเครนต้องค้นหาแบบจำลองที่ยูเครนจะไม่สูญเสียอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน และเพื่อป้องกันสงครามครั้งใหม่ระหว่างดินแดนที่ยูเครนควบคุมและดินแดนที่ถูกยึดครองชั่วคราว ในเวลาเดียวกัน ประธานาธิบดียูเครนให้สัมภาษณ์พิเศษกับสถานีโทรทัศน์เช็กว่า การประนีประนอมคือสิ่งที่มีราคา ยูเครนจะทำทุกวิถีทางเพื่อเรียกคืนดอนบาสและไครเมีย ก่อนหน้านี้ นายวลาดีมีร์ เมดินสกี ผู้ช่วยประธานาธิบดีรัสเซีย กล่าวว่า ยูเครนกำลังเสนอให้สร้างรัฐปลอดทหารในแบบของออสเตรียหรือสวีเดน
สำนักข่าวยอนฮับรายงานเมื่อ 21 ม.ค.65 ว่า ทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้แสดงความกังวลเกี่ยวกับแผนการย้ายทำเนียบประธานาธิบดีของนายยุน ซ็อก-ย็อล ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดช่องโหว่ด้านการรักษาความปลอดภัยในห้วงที่สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้น โดยนายพัก ซู-ฮย็อน เลขาธิการอาวุธโสด้านการสื่อสารสาธารณะประจำทำเนียบประธานาธิบดีเกาหลีใต้ระบุว่าการย้ายกระทรวงกลาโหม เสนาธิการทหารร่วม และทำเนียบประธานาธิบดี ก่อนจะถึงวันดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการของนายยุน ซ็อก-ย็อล ใน 10 พ.ค.65 เป็นเรื่องที่ไม่มีเหตุผล ทั้งนี้ นายยุน ซ็อก-ย็อล ประกาศจะย้ายสำนักงานประธานาธิบดีจากทำเนียบประธานาธิบดี (ช็องวาแด) ไปยังอาคารกระทรวงกลาโหม ในเขตยงซัน กลางกรุงโซล เนื่องจากเห็นว่าช็องวาแดเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจของจักรพรรดิ และต้องการใกล้ชิดกับประชาชนมากขึ้น
เว็บไซต์สำนักข่าว Laotian Times รายงานเมื่อ 21 มี.ค.65 อ้างคำกล่าวของนายอุทัน ไตลิดทิ รองประธานโรงกลั่นน้ำมันยอดงึ่มเพาเวอร์ ว่า โรงกลั่นน้ำมันยอดงึ่มเพาเวอร์ มูลค่า 30,000 ล้านกีบ (ประมาณ 87 ล้านบาท) ซึ่งตั้งอยู่ที่บ้านยอดงึ่ม เมืองแปก แขวงเชียงขวาง ก่อสร้างแล้วเสร็จและจะเปิดดำเนินการกลั่นน้ำมันดิบในอนาคตอันใกล้ โรงกลั่นดังกล่าวก่อสร้างเมื่อ ก.ย.64 มีความจุ 2.4 ล้านลิตร สามารถผลิตปิโตรเลียมได้ 100 ล้านลิตรต่อปี แบ่งเป็นกลั่นน้ำมันดีเซลร้อยละ 60 น้ำมันเครื่องร้อยละ 39 และผลิตสารเคมีร้อยละ 1 โดยจะจัดจำหน่ายผ่านรัฐวิสาหกิจน้ำมันเชื้อไฟลาว (Lao State Fuel Company-LSFC)
ตลอดเดือนเต็มที่ผ่านมากับการเดินหน้ารบของรัสเซียในยูเครนได้สร้างผลกระทบอย่างมากมายมหาศาลไม่เฉพาะกับประเด็นด้านมนุษยธรรมในประเทศยูเครนเท่านั้น แต่วิกฤตนี้ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อความผันผวนของราคาพลังงานโลกด้วย โดยเฉพาะในฝั่งยุโรปที่พึ่งพิงการนำเข้าพลังงานจากรัสเซียจำนวนมหาศาล
หุ้น JD หรือ Jingdong ดีดตัวขึ้นทันทีก่อนปิดแท่งสัปดาห์เมื่อไม่กี่วันก่อน หลังจากรัฐบาลจีนแสดงท่าทีเชิงบวกต่อกรณีที่สหรัฐฯ กดดันจีนให้ปรับเปลี่ยนแนวทางในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ หากไม่ต้องการให้หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีของจีน เช่น Alibaba และ JD ถูกถอดออกจากรายการซื้อ-ขายในตลาดสหรัฐฯ นักลงทุนกลุ่มใหญ่จึงรู้สึกคลายกังวล แล้วทยอยเข้าช้อนซื้อตามแนวรับสำคัญระหว่างโซน $41-$48 ซึ่งเป็นผลให้ราคามีการรีบาวด์ขึ้นมาจากแนวรับเส้นสีแดงที่ $41 และเส้นสีส้มที่ $48 ทะลุขึ้นมาถึงบริเวณแนวต้านเส้นสีเขียวที่ $62 (ตามภาพที่ 1) คิดเป็นอัตรากว่า 60% แต่ในขณะเดียวกันก็มีนักลงทุนบางกลุ่มที่รีบปิดสัญญาการซื้อ-ขาย แล้วเทหุ้น JD ทิ้งเพื่อทำกำไรระยะสั้นบริเวณแนวต้านเส้นสีเขียวนี้ด้วย ทำให้การเคลื่อนที่ของหุ้น JD อาจสวิงอยู่ใกล้ๆเส้นดังกล่าวในช่วงรอยต่อระหว่างไตรมาส 1 และ 2 ของปี 2565 นี้ โดยเป้าหมายหลักในระยะกลางยังคงอยู่ที่แนวต้านเส้นสีน้ำเงิน และแนวต้านเส้นทแยงสีดำบริเวณ $75-$79 ซึ่งเป็นแนวต้านที่มีบทบาทหลักในฐานะกำแพงกั้นราคาไม่ให้หุ้น JD หลุดออกจากตลาดขาลงมาตั้งแต่ช่วงปี 2564 ในทางเทคนิคจากที่ปรากฏออกมาผ่านกราฟราคานั้น หุ้น JD ยังถือว่าเคลื่อนตัวอยู่ในสภาวะตลาดขาลงตามกรอบเส้นขนานสีดำ (bearish parallel channel) ไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากแท่งเทียนการดีดตัวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมายังถูกมองว่าเป็นเพียงคลื่นของการรีบาวด์จากแนวรับสำคัญเท่านั้น…
แม้น้ำมันดิบจะเคยถูกนักลงทุนจำนวนมากลงความเห็นให้เป็นสินทรัพย์ที่ไร้ค่า แล้วพากันเทขายทิ้งส่งผลให้ราคาดิ่งลงมาต่ำกว่า $20 ต่อบาร์เรล ในช่วงไวรัส COVID-19 กำลังแพร่ระบาดจนทำให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการเดินทางทั่วโลกหยุดชะงักลงกะทันหันในทันทีจากความตื่นตระหนก แต่หลังจากรัฐบาลหลายๆแห่งเริ่มทำความเข้าใจกับสถานการณ์ขณะนั้น กราฟราคาน้ำมันดิบก็ฟื้นตัวขึ้นทันทีในลักษณะการหักหัวขึ้น (strong reversal) ช่วงพฤษภาคม 2563 โดยมีการปรับตัวขึ้นมาอย่างต่อเนื่องมาตลอด 2 ปี ตามกรอบทแยงสีดำ (ascending channel) โดยที่มีการย่อลงของกราฟอย่างรุนแรงเพียงครั้งเดียว คือ ในช่วงปลายปี 2563 ก่อนจะเคลื่อนตัวในลักษณะเกาะติดแนวต้านเส้นสีดำไป สะท้อนถึงแรงซื้อที่ตามเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย ทั้งจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การขนส่งในหลายๆประเทศที่เริ่มฟื้นตัว และกลุ่มนักลงทุนสายเก็งกำไรที่เข้ามาซื้อน้ำมันดิบผ่านสัญญาซื้อ-ขายล่วงหน้าในตลาดอนุพันธ์ หากพิจารณาจากมุมของเทคนิค จะเห็นได้ว่ากราฟราคาน้ำมันดิบในปี 2564 นั้นมีแรงซื้อจากนักลงทุนเบาบางลงไปพอสมควร ทำให้รูปแบบการเคลื่อนที่ของแท่งเทียนมีการชะลอตัวสัมพันธ์กับปริมาณแรงซื้อในตลาดจนราคาต้องย่อลงไปแตะแนวรับเส้นสีน้ำเงิน (ตามภาพที่ 1) บริเวณ $65 ต่อบาร์เรลอยู่ 4-5 ครั้ง เนื่องจากแรงซื้อในตลาดมีไม่เพียงพอที่จะสามารถดันราคาให้ทะลุขึ้นไปอยู่เหนือแนวต้านเส้นสีม่วงบริเวณ $85 ต่อบาร์เรลได้ แต่ด้วยผลของการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อในสหรัฐฯ และข่าวความขัดแย้งรัสเซีย-ยูเครน ทำให้ราคาน้ำมันดิบกลับเข้าสู่ขาขึ้นได้อีกครั้ง โดยในครั้งนี้สามารถทะลุผ่านขึ้นไปยืนเหนือแนวต้านเส้นสีม่วงได้สำเร็จ พร้อมทลายแนวต้านเส้นสีส้มที่บริเวณ $110 ต่อบาร์เรลได้และสามารถทะลุออกไปอยู่นอกกรอบสีดำได้เป็นครั้งแรกในรอบ 1 ปี เป้าหมายในเดือนมีนาคมของน้ำมันดิบนี้ในเบื้องต้นจึงเป็นการยืนเหนือแนวต้านสีดำบริเวณ $120…
ในแวดวงของกลุ่มนักลงทุนสายเก็งกำไร ทั้ง Future และ Binary option นั้น ส่วนใหญ่แล้วหากว่างเว้นจากการเทรดค่าเงินต่างประเทศ มักจะหันไปที่ดัชนี US30 หรือ Wall Street 30 ซึ่งเป็นดัชนีที่ใช้สะท้อนภาพรวมของหุ้น 30 ตัว จากบริษัทที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ หรือจะให้กล่าวอีกนัยหนึ่ง คือ ดัชนี US30 นี้ เป็นเครื่องมือวัดอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีรูปแบบการเคลื่อนที่ของราคาที่ชัดเจนค่อนข้างสูง และมีอัตราการสวิงของราคาที่ต่ำ ดังนั้นจึงง่ายสำหรับผู้ที่เป็นนักลงทุนระยะสั้น เมื่อเทียบกับสินทรัพย์ตัวอื่นๆในวงจรของตลาดเก็งกำไร เพราะเข้าซื้ออย่างไรก็มีโอกาสที่ราคาจะพุ่งขึ้นต่อไปเรื่อยๆ ดังจะเห็นได้จากช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ที่ดัชนี US30 เข้าสู่ตลาดขาลงอย่างกะทันหันจากสถานการณ์ของไวรัส COVID-19 ระบาดแล้วนำไปสู่การล็อคดาวน์ในหลาย ๆประเทศทั่วโลก แต่เมื่อสถานการณ์ทุเลาลง และรัฐบาลหลายๆแห่งเริ่มเปิดประเทศเพื่อจะทำให้ COVID-19 กลายเป็นโรคประจำถิ่นมากขึ้น ดัชนี US30 จึงฟื้นตัว และมีแรงซื้อจากนักลงทุนเติบโตอย่างต่อเนื่องมาตลอด ในทางเทคนิคจะเห็นได้ชัดว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมาดัชนี US30 มีการเคลื่อนที่ในลักษณะสามเหลี่ยมปากเปิด (expanding triangle) ระหว่างแนวรับเส้นสีน้ำเงินที่โซนราคา $33,873.2…