ญี่ปุ่นและสหรัฐฯ จะไม่เชื่อมเคเบิลใต้น้ำกับอุปกรณ์จากจีน
ในทุกวินาที ระบบเคเบิลใต้น้ำมีความสำคัญต่อความมั่นคงของโลก โดยข้อมูลด้านการสื่อสารทางโทรคมนาคม และการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ ร้อยละ 95 ส่งผ่านระบบสายไฟเบอร์ออฟติก (Fiber Optic Cable) หรือสายใยแก้วนําแสงใต้น้ำ หรือเรียกสั้น ๆ ว่าเคเบิลใต้น้ำ ซึ่งน่าจะมีอย่างน้อยมีทั้งหมด 450 เส้น และมีความยาวทั่วโลกประมาณ 1.4 ล้านกิโลเมตร หากสาย หรือระบบเคเบิลใต้น้ำถูกควบคุม ก่อวินาศกรรม ดักฟัง เผชิญกับภัยธรรมชาติ หรืออุบัติเหตุทางเรือ โดยไม่ต้องสงสัยประเทศที่ควบคุมได้ก็จะเป็นเจ้าแห่งข้อมูล หรือมีข้อมูลเป็นอาวุธในการต่อรองระหว่างประเทศ รวมทั้งใช้เพิ่มศักยภาพความแข็งแกร่งของตนเอง ขณะที่ความอ่อนแอจากการถูกวินาศกรรม หรือการถูกจารกรรมข้อมูลก็เป็นจุดอ่อนสำคัญยิ่งต่อความมั่นคงของประเทศเป้าหมาย ญี่ปุ่นเป็นประเทศหนึ่งที่ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการปกป้องการสื่อสารผ่านเคเบิลใต้น้ำ เพราะร้อยละ 99 ของการเชื่อมต่อกับต่างประเทศใช้ระบบสายเคเบิลใต้น้ำ หรืออาจกล่าวได้ว่าญี่ปุ่นพึ่งพาเคเบิลใต้น้ำถึงร้อยละ 99 ของการสื่อสารระหว่างประเทศ เช่น กับสหรัฐฯ ออสเตรเลีย ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และรัสเซีย เป็นต้น บริษัทญี่ปุ่นด้านนี้ เช่น บริษัท Nippon Telegraph and Telephone (NTT) บริษัท KDDI Corporation…