ขอบคุณภาพประกอบจาก REUTERS/โดย นาย Dado Ruvic
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อ 3 ก.ค.64 ว่า เครือข่ายร้านสะดวกซื้อ (Coop) ของสวีเดน กว่า 800 แห่งต้องปิดให้บริการเนื่องจาก ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ ส่งผลให้ร้านค้า ไม่สามารถลงทะเบียนเงินสดจากยอดขายได้จึงต้องปิดบริการ
กลุ่มแฮกเกอร์ที่ชื่อว่า REvil ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในการใช้มัลแวร์เรียกค่าไถ่โจมตีโปรแกรมควบคุมคอมพิวเตอร์จากระยะไกล (KASEYA VSA) ของบริษัท KASEYA ซึ่งเป็นผู้ให้บริการเทคโนโลยีแบบเบ็ดเสร็จจากสหรัฐฯ ที่ให้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีแก่ Coop และยังแพร่กระจายมัลแวร์ดังกล่าวไปยังธุรกิจอีกหลายพันแห่ง โดยแฮกเกอร์ได้เลือกโจมตีวันศกร์ที่ 2 ก.ค.64 ซึ่งเป็นวันหยุดยาว มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้มัลแวร์เรียกค่าไถ่กระจายบนเครือข่ายโดยเร็วที่สุด ในขณะที่พนักงานไม่ได้มาทำงาน นอกเหนือจาก Coop ได้รับผลกระทบแล้ว บริการรถไฟของรัฐและเครือข่ายร้านขายยาในสวีเดนที่ใช้เทคโนโลยีบริหารจัดการของบริษัท Kaseya ก็ประสบปัญหาเช่นกัน
บริษัท Kaseya ที่ตั้งอยู่ไมอามี สหรัฐฯ ได้ทำงานร่วมกับ FBI และ สำนักงานความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และโครงสร้างพื้นฐานสำคัญของสหรัฐฯ เพื่อสืบสวนหาผู้โจมตีและได้แนะนำให้เหยื่อดำเนินการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบตามคำแนะนำของบริษัท Kaseya ด้านประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดนของสหรัฐฯ ได้สั่งการเมื่อ 3 ก.ค.64 ให้ประชาคมข่าวกรองของสหรัฐฯ สืบสวนหาผู้กระทำผิดดังกล่าว ขณะที่ นาย ปีเตอร์ ฮูลท์ควิสต์ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของสวีเดนระบุต่อสถานีโทรทัศน์สวีเดนว่า การโจมตีครั้งนี้ “อันตรายมาก” แสดงให้เห็นว่าหน่วยงานธุรกิจและรัฐจำเป็นต้องปรับปรุงความพร้อมเพื่อรับมือกับภัยคุกคาม