The Intelligence Weekly Review (18/12/2022)
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ประกาศเมื่อ 14 ธ.ค.65 ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายร้อยละ 0.5 เป็นครั้งที่ 7 ในปี 2565 สู่ระดับร้อยละ 4.25-4.5 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ปี 2550 และมีแนวโน้มปรับขึ้นอีกร้อยละ 0.75 ในปี 2566 เพื่อควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้ลดลงอย่างยั่งยืน แม้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ใน พ.ย.65 มีทิศทางที่ดีขึ้น ลดลงเหลือร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับระดับสูงสุดที่ร้อยละ 9.1 เมื่อ มิ.ย.65 นอกจากนี้ Fed ยังประเมินว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะชะลอตัว โดยจะขยายตัวเพียงร้อยละ 0.5 ในปี 2566 ขณะที่อัตราการว่างงานในปี 2566-2567 มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.7 เป็นร้อยละ 4.6 ภายในปี 2566 Credit Pic : dw
สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ และ NK news รายงานเมื่อ 16 ธ.ค.65 อ้าง สำนักข่าว KCNA ของเกาหลีเหนือว่า นายคิม จ็อง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ร่วมสังเกตการณ์และให้คำแนะนำการทดสอบเครื่องยนต์ขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็งแรงขับดันสูง (High-thrust solid-fuel motor) ที่ฐานปล่อยดาวเทียมโซแฮ (Sohae Satellite Launching Ground) เมืองช็อลซัน จ.พย็องอันเหนือ เมื่อช่วงเช้าของ 15 ธ.ค.65 โดยเกาหลีเหนือทดสอบเครื่องยนต์ขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็งเป็นครั้งแรก และการทดสอบประสบความสำเร็จ เนื่องจากแรงขับดันสูง 140tf (Ton-force) ลักษณะการดลจำเพาะ การเผาไหม้ การควบคุมระยะเวลาและระบบแรงขับเวกเตอร์ (Thrust vector) ตรงตามเป้าหมายและมีความเสถียร ผู้นำเกาหลีเหนือระบุว่า เครื่องยนต์ดังกล่าวจะใช้ในการพัฒนาระบบอาวุธยุทธศาสตร์รุ่นใหม่ต่อไปโดยเร็วที่สุด ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ว่า เกาหลีเหนืออาจพยายามพัฒนาขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ (Intercontinental Ballistic Missile-ICBM) หรือขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ (Submarine-Launched Ballistic Missile-SLBM) ด้วยเครื่องยนต์ขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็งรุ่นใหม่ที่สามารถยิงได้จากบนบกและใต้น้ำ อีกทั้งใช้เวลาเตรียมการยิงสั้นกว่าขีปนาวุธเชื้อเพลิงเหลว สอดคล้องกับการพัฒนาขีปนาวุธภายใต้แผนระยะ 5…
สำนักข่าว VOA รายงานเมื่อ 15 ธ.ค.65 ว่า สหรัฐฯ ขึ้นบัญชีคว่ำบาตรบริษัทผลิตชิปและปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence-AI) ของจีนเพิ่มเติม 22 บริษัท เพื่อป้องกันจีนแสวงประโยชน์จากการเข้าถึงเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงบริษัทชั้นนำของจีน อาทิ บริษัท YMTC บริษัท Cambricon Technologies Corp และ China Electronics Technology Group Corporation (CETC) บริษัทผลิตอาวุธของจีน โดยสหรัฐฯ ห้ามบริษัทของสหรัฐฯ จัดส่งสินค้าหรือชิ้นส่วนเทคโนโลยีของสหรัฐฯ ให้กับบริษัท YMTC หากไม่ได้รับอนุญาต เนื่องจากบริษัท YMTC มีความเสี่ยงที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีสหรัฐฯ ให้กับบริษัทจีนที่ถูกขึ้นบัญชีก่อนหน้านี้ เช่น บริษัท Huawei และ Hikvision นอกจากนี้ ยังปิดกั้น Cambricon Technologies Corp และ CETC จากการเข้าถึงเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นจากอุปกรณ์ของสหรัฐฯ Credit…
เว็บไซต์ The Defense Post รายงานเมื่อ 16 ธ.ค.65 ว่า ในการประชุมคณะกรรมการชายแดนฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องให้มีการเพิ่มความร่วมมือระดับทวิภาคีที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยทางทะเล โดยจะเพิ่มความถี่ในการลาดตระเวนร่วมกันเป็นเดือนละครั้งในปี 2566 จากเดิมที่กำหนดไว้ที่ 4 ครั้งต่อปี โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำงานร่วมกันและการรักษาความมั่นคงชายแดนระหว่างประเทศเพื่อนบ้าน ต่อต้านการละเมิดลิขสิทธิ์ การข้ามแดนที่ผิดกฎหมาย และกิจกรรมอาชญากรรมอื่น ๆ รวมถึงการให้ความช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีในกรณีที่พบเรืออับปางเนื่องจากภัยพิบัติและพายุไต้ฝุ่น ทั้งนี้ในปี 2565 ฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียปฏิบัติการลาดตระเวนร่วมกัน 4 ครั้งเมื่อห้วง มี.ค. ก.ค. ต.ค. และ ธ.ค. Credit Pic : thedefensepost
ความอดทนเป็นศูนย์ หรือหากจะให้เข้าใจง่าย ๆ คือ จะไม่อดทนกับสิ่งที่ได้พบและได้เห็น และขอตั้งคำถามต่อไปว่า สิ่งนี้ ควรเป็นคุณสมบัติของคนไทยว่าควรมีไหม ? ที่ไปที่มาที่ทำให้ความรู้สึกนี้กลับมารบกวนจิตใจอีกครั้ง เนื่องจากเกิดขึ้นกับตนเองที่เมื่อเร็ว ๆ นี้ได้พบอะไรหลาย ๆ อย่าง ทั้งพอใจและไม่พอใจ แม้ไม่ใช่สิ่งที่ยิ่งใหญ่ในสังคม และไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ก็ทำให้ต้องกลับไปคิดว่า เราควร Zero Tolerance กับสิ่งนั้นหรือไม่ เพื่อไม่ให้ปัญหานั้นลุกลาม หรือการทำตัวเองให้เป็น Zero Tolerance จะยิ่งทำให้สังคมขัดแย้งกันมากขึ้น