The Intelligence Weekly Review 14/07/2024
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงเมื่อ 14 ก.ค.67 ว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ขอแสดงความเห็นใจต่ออดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จากกรณีการถูกลอบยิงระหว่างการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อ 13 ก.ค.67 และว่าจีนกำลังติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
นายกรัฐมนตรีลอว์เรนซ์ หว่อง ของสิงคโปร์ ระบุผ่านสื่อสังคมออนไลน์เมื่อ 14 ก.ค.67 ว่าตกใจอย่างยิ่งที่ทราบเหตุพยายามลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ แต่ก็โล่งใจเมื่อทราบว่านายทรัมป์ปลอดภัย และขอส่งความห่วงใยถึงครอบครัวผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตีที่ไร้เหตุผลดังกล่าว โดยย้ำจุดยืนของสิงคโปร์ที่ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงต่อผู้มีความเห็นแตกต่างกัน ด้านประธานาธิบดีเฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์ แถลงผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ด้วยเนื้อหาใกล้เคียงกัน นอกจากนี้ ผู้นำฟิลิปปินส์ขอแสดงจุดยืนร่วมกับผู้รักในประชาธิปไตยทั่วโลก ในการประณามการใช้ความรุนแรงทางการเมืองในทุกรูปแบบ
นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดิ ของอินเดีย เผยแพร่ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม x ( ทวิตเตอร์) เมื่อ 14 ก.ค.67 แสดงความห่วงกังวลอย่างยิ่งต่อเหตุอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ถูกลอบยิง ขณะปราศรัยหาเสียงเมื่อ 13 ก.ค.67 โดยประณามเหตุการณ์ดังกล่าว พร้อมระบุว่า การใช้ความรุนแรงไม่ควรมีอยู่ในวิถีทางการเมืองและประชาธิปไตย และส่งความปรารถนาดีขอให้อาการของอดีตประธานาธิบดีทร้มป์เป็นปกติในเร็ววัน ในโอกาสเดียวกันนี้ นายโมดิยังได้แสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิต และส่งกำลังใจให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ตลอดจนชาวอเมริกันที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้
คณะกรรมการกิจการต่างประเทศของสภาประชาชนแห่งชาติจีน (National People’s Congress-NPC) และสภาที่ปรึกษาทางการเมืองแห่งชาติ (Chinese People’s Political Consultative Conference-CPPCC) ออกแถลงการณ์เมื่อ 13 ก.ค.67 ประณามสหรัฐฯ ต่อการพิจารณาผ่านร่างกฎหมายว่าด้วยการแก้ไขความขัดแย้งกรณีทิเบต (Promoting a Resolution to the Tibet-China Dispute Act) เมื่อ 12 ก.ค.67 โดยระบุว่า ทิเบต (Xizang) เป็นส่วนหนึ่งของจีน กฎหมายดังกล่าวของสหรัฐฯ ถือเป็นการแทรกแซงกิจการภายใน บ่อนทำลายผลประโยชน์ของจีน และเป็นการส่งสัญญาณที่ผิดอย่างร้ายแรงต่อกลุ่มเรียกร้องเอกราชของทิเบต ทั้งนี้ หากสหรัฐฯ ยังคงดำเนินการไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง จีนจะดำเนินมาตรการเพื่อปกป้องอธิปไตย ความมั่นคงและผลประโยชน์ของจีนอย่างเต็มที่เช่นกัน
สำนักข่าว Myanmar Now รายงานเมื่อ 12 ก.ค.67 อ้างคำกล่าวของโฆษกกองทัพสหรัฐว้า (UWSA) ว่า กองทัพได้เข้าควบคุมเมืองตางยานทางตอนเหนือของรัฐฉาน เมื่อ 11 ก.ค.67 เพื่อป้องกันไม่ให้แนวรบบริเวณเมืองลาเสี้ยวขยายเข้ามา ซึ่งการเข้าควบคุมเกิดขึ้นหลังจากที่ได้มีการเจรจากับผู้บัญชาการทหารในพื้นที่และเป็นไปตามคำร้องขอของชาวบ้าน อย่างไรก็ดี สำนักข่าวท้องถิ่นของรัฐฉาน เปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะมีการเจรจา UWSA ได้ส่งทหารจำนวน 2,000 นาย จากกองพลที่ 171 ซึ่งมีฐานทัพใกล้ชายแดนไทยเข้ามาเสริมกำลังในพื้นที่แล้ว ทั้งนี้ การปะทะกันอย่างรุนแรงรอบเมืองลาเสี้ยว เริ่มมาตั้งแต่ 3 ก.ค.67 และกลายเป็นจุดสำคัญของปฏิบัติการ 1027 ในรอบใหม่นี้ แม้กองทัพจะยังควบคุมเมืองลาเสี้ยวซึ่งเป็นที่ตั้งของกองบัญชาการตะวันออกเฉียงเหนือไว้ได้ แต่ชาวบ้านหลายพันคนในพื้นที่ได้หลบหนีออกจากเมืองในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาหลังการสู้รบทวีความรุนแรงขึ้น