นักศึกษาจีน: อีกเหยื่อของการแข่งขันระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
เมื่อมองบรรยากาศการเมืองระหว่างประเทศ แน่นอนว่าปกคลุมด้วยคำว่าการแข่งขันระหว่างมหาอำนาจ ซึ่งก็ไม่พ้นสหรัฐฯ กับจีน และมีรัสเซียเข้ามาแซมบ้างบางสถานการณ์ การแข่งขันที่เกิดขึ้นครอบงำในทุกมิติและทุกวงการ ไม่เว้น แม้แต่วงการการศึกษา…และนักศึกษา ท่ามกลางข่าวสารที่ปรากฏเป็นระยะเกี่ยวกับการใช้สายลับ การสอดแนม และการจารกรรม ซึ่งไม่เพียงย้ำภาพการเมืองโลกที่ตกอยู่ในภาวะสงครามเย็นครั้งใหม่ตามที่เหล่านักวิเคราะห์ให้คำนิยามสถานการณ์การเมืองโลกปัจจุบัน แต่ยังทำให้นักศึกษากลายเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันระหว่างสองมหาอำนาจ การแข่งขันและตอบโต้กันระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในมิติต่าง ๆ ยังไม่มีแนวโน้มจะผ่อนคลาย ทั้งยังพร้อมจะตึงเครียดในทุกขณะ และดูเหมือนว่าทุกประเทศและทุกภาคส่วนจะถูกดึงเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อม บนพื้นฐานของความหวาดระแวงและไม่ไว้ใจกัน……โดยกรณีที่มีข่าวสารว่า สหรัฐฯ ตั้งคำถามกับมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีไอนด์โฮเฟน (Eindhoven University of Technology) ของเนเธอร์แลนด์เกี่ยวกับจำนวนนักศึกษาจีน ซึ่งสหรัฐฯ มองว่ามีจำนวนมาก แม้ไม่มีการเปิดเผยตัวเลขนักศึกษาจีนที่มหาวิทยาลัยดังกล่าว จนนำไปสู่การออกข้อบังคับของมหาวิทยาลัยเพื่อจำกัดและควบคุมนักศึกษาจีนในการเข้าถึงเทคโนโลยีอ่อนไหว เป็นหนึ่งในตัวอย่างที่สะท้อนว่า อะไรที่เกี่ยวกับจีน อยู่ในสายตาของสหรัฐฯ ตลอด และจะเป็นที่จับตามากขึ้น หากพัวพันกับเรื่องอ่อนไหวหรือนวัตกรรมที่จะเป็นประโยชน์สำหรับจีนในการพัฒนา โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยุทธศาสตร์ เช่น เซมิคอนดักเตอร์ และครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เนเธอร์แลนด์ตกอยู่ในสถานการณ์ดังกล่าว ความพยายามสกัดกั้นโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักศึกษาจีนด้วยการอ้างเหตุผลเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ สะท้อนว่า นักศึกษาจีนเป็นหนึ่งในเหยื่อของการแข่งขันระหว่างสหรัฐฯ กับจีน และสงครามเทคโนโลยีไม่ได้จำกัดเฉพาะการห้ามการส่งออกสินค้าให้จีน นอกจากนั้น หากการปิดกั้นการได้รับความรู้หรือการถ่ายทอดวิทยาการใหม่ ๆ เกิดขึ้นเฉพาะในสหรัฐฯ…