รอบรั้วอาคเนย์ ปักษ์แรก ก.ย.67
รอบรั้วอาคเนย์ Intelligence Report by NIA ฉบับปักษ์แรก กันยายน 2567
รายงานสถานการณ์และบทบาทของผู้นำที่น่าสนใจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมประเมินแนวโน้ม
รอบรั้วอาคเนย์ Intelligence Report by NIA ฉบับปักษ์แรก กันยายน 2567
รายงานสถานการณ์และบทบาทของผู้นำที่น่าสนใจในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมประเมินแนวโน้ม
ไทยติดอัน 6 ประเทศที่มีอาชญากรรมการเงินของโลกในปี 2566 โดยเรียงลำดับจากมากสุด ได้แก่ อันดับ 1 อินเดีย รองลงมา ไนจีเรีย ซาอุดิอาระเบีย สหรัฐ ฯ ออสเตรเลีย และไทย The Intelligence Podcast จะชวนพูดคุยเกี่ยวกับการรู้เท่าทันกลอุบายของมิจฉาชีพ ก่อนตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมทางการเงินบนโลกออนไลน์
Int Podcast รวบรวมประเด็นเด่นจากการดีเบตรอบแรกของแฮร์ริส-ทรัมป์ เพื่อชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในโค้งสุดท้าย!? ใครชนะ ใครได้ใจ ใครพลาดพลั้ง และทรัมป์พูดอะไรกันแน่เรื่องผู้อพยพ? …ติดตามได้ในตอนที่ 185 #เลือกตั้ง #อเมริกา #ทรัมป์ #แฮร์ริส #ผู้อพยพ #ประธานาธิบดี
จากรายงานของสำนักงานสอบสวนกลาง (FBI) ระบุว่าปี 2566 เป็นปีที่พบการฉ้อโกงสกุลเงินดิจิทัลเป็นสถิติสูงสุดตั้งแต่จัดทำรายงานมา โดยมีมูลค่าความเสียหาย 5.6 พันล้านดอลลาร์ โดยอ้างอิงจากรายงานเกือบ 70,000 ฉบับ ผ่านศูนย์ร้องเรียนอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต (IC3)
แพลตฟอร์ม FreeWeb Turkey เมื่อวันที่ 9 ก.ย.67 ได้เปิดเผย ว่า บุคคลนิรนามได้ทำการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชนตุรกี 108 ล้านคนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงผู้ลี้ภัย และบุคคลอื่น ๆ ที่ลงทะเบียนกับหน่วยงานอย่างเป็นทางการในตุรกี
ในอดีตจังหวัดชุมพรประสบปัญหาอุทกภัย โดยเฉพาะครั้งที่รุนแรงที่สุดเมื่อเจอกับพายุไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งที่อ่าวไทย ต่อมาในปี 2540 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงห่วงใยความทุกข์ยากของประชาชนชาว จ.ชุมพร จึงได้มีพระราชดำริ ให้จัดทำโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ ในจังหวัดชุมพร เพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม ให้มีแก้มลิงธรรมชาติเพื่อกักเก็บน้ำสำหรับเกษตรกรรมและป้องกันอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชุมพร นับตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวันนี้จังหวัดชุมพรไม่เคยประสบปัญหาอุทกภัยอีกเลย ติดตามรับฟังการถ่ายทอดเรื่องราวของโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ ตามพระราชดำริ ได้จากนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร อดีตรองผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร #ในหลวงรัชกาลที่9 #หนองใหญ่ #ชุมพร #น้ำท่วม #อุทกภัย
อิสราเอลโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่เมื่อ 11 กันยายน 2567 โดยทำลายโรงเรียนในพื้นที่ตอนกลางของฉนวนกาซา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สหประชาชาติ (UN) สนับสนุนและกำหนดให้เป็นพื้นที่หลบภัย ปฏิบัติการดังกล่าวทำให้เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ สังกัด UNRWA เสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 20 คน และได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก รวมทั้งเด็กและสตรี กรณีดังกล่าวทำให้นานาชาติประณามอิสราเอล ไม่เห็นด้วยกับการโจมตีพื้นที่หลบภัย และทำให้เจ้าหน้าที่ UN เสียชีวิต โดยครั้งนี้จำนวนเจ้าหน้าที่เสียชีวิตมากที่สุด
สื่อมวลชนส่วนมากประเมินว่า กมลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบันและผู้แทนพรรคเดโมแครตลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในปลายปีนี้ ชนะการตีเบต หรือการแสดงวิสัยทัศน์แข่งกับอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้แทนพรรครีพับลิกัน เมื่อ 10 กันยายน 2567 โดยเป็นการดีเบตครั้งแรกระหว่างทั้ง 2 คน ที่สำนักข่าว ABC News เป็นเจ้าภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองและผลสำรวจความเห็นของชาวอเมริกันส่วนมากบ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า แฮร์ริสชนะในการดีเบตครั้งนี้
หนังสือพิมพ์ Khmer Times รายงานเมื่อ 11 ก.ย.67 ว่า รัฐบาลเวียดนามอนุมัติโครงการก่อสร้างทางด่วนเส้นทางนครโฮจิมินห์-ม็อกไบ จ.เตยนิงห์ (ติดกัมพูชา) เมื่อ ส.ค.67 ซึ่งจะเชื่อมต่อกับทางด่วนเส้นทางราชธานีพนมเปญ-บาเวต จ.สวายเรียง (ติดเวียดนาม) ของกัมพูชา สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลกัมพูชาที่มีนโยบายสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อลดต้นทุนด้านการขนส่งและโลจิสติกส์ ส่งเสริมการค้าและการลงทุน การคมนาคมขนส่ง และบรรเทาปัญหาการจราจร สำหรับทางด่วนเส้นทางนครโฮจิมินห์-ม็อกไบ มีมูลค่าประมาณ 19.6 ล้านล้านด่งเวียดนาม (ประมาณ 798 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ดำเนินการในรูปแบบ Build-Operate-Transfer (BOT) ความกว้างถนน 4 ช่องจราจร ระยะทาง 50 กิโลเมตร เวียดนามคาดว่าจะเริ่มก่อสร้างใน เม.ย.68 และก่อสร้างแล้วเสร็จ รวมทั้งเชื่อมต่อกับทางด่วนเส้นทางราชธานีพนมเปญ-บาเวตได้ใน ธ.ค.70
South China Morning Post รายงานเมื่อ 10 ก.ย.67 อ้างผลการสำรวจของหน่วยงานคลังสมอง Centre for Strategic and International Studies ในสหรัฐฯ ว่า ความกังวลของภาคธุรกิจไต้หวันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามระหว่างสหรัฐฯ กับจีนในอีก 5 ปีข้างหน้าลดลง จากร้อยละ 38.7 เมื่อปี 2565 เหลือร้อยละ 28.2 เมื่อปี 2566 ทำให้ส่วนใหญ่ยังไม่ต้องการย้ายการดำเนินธุรกิจออกจากจีน อย่างไรก็ดี หลายบริษัทดำเนินยุทธศาสตร์กระจายความเสี่ยงและเพิ่มความหลากหลาย เช่น ขยายความสัมพันธ์ทางการค้ากับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค และสหรัฐฯ เพิ่มการวิจัยและพัฒนา และย้ายการลงทุนบางส่วนออกจากจีนและไต้หวัน ทั้งนี้ ไต้หวันยังมองจีนเป็นคู่ค้าสำคัญ (ร้อยละ 35 ของการส่งออกทั้งหมดของไต้หวัน) ทั้งยังไม่มั่นใจนักว่าอินเดียและประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะทดแทนได้ จึงย้ายการลงทุนเข้ามาเพียงบางส่วน