ระหว่างนี้ทั่วโลกกำลังสนใจนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ของสหรัฐฯ ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์จะกลับไปใช้แนวทางบริหารและวางนโยบายเหมือนเดิมหรือไม่!? และที่สำคัญคือจะส่งผลเปลี่ยนแปลงอย่างไรต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ … แต่!!..บทความนี้อยากชวนมองบทบาทที่เหลืออยู่ของรัฐบาลประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน ที่จะต้องลงจากตำแหน่งเร็ว ๆ นี้ แถมกำลังเป็นรัฐบาลที่อยู่ในสภาพ “เป็ดง่อย” หรือ lame duck เพราะการออกนโยบายก็จะไม่ได้รับการตอบรับอะไรอีกแล้ว คนส่วนใหญ่สนใจแต่รัฐบาลชุดใหม่ แต่เขาก็ยังคงเป็นผู้นำสูงสุดของรัฐบาลมหาอำนาจแห่งโลกตะวันตกอยู่ไปอีกหลายสัปดาห์ ดังนั้น การตัดสินใจในแต่ละครั้งยังคงสำคัญ รวมทั้งจะส่งผลต่อบรรยากาศความสัมพันธ์ระหว่างประเทศได้ เหตุการณ์ล่าสุดที่ประธานาธิบดีไบเดนตัดสินใจ และกลายเป็นประเด็นใหญ่ส่งผลต่อบรรยากาศความสัมพันธ์และความมั่นคงระหว่างประเทศ คือ การอนุมัติเมื่อ 18 พฤศจิกายน 2567 ให้ยูเครน ใช้ขีปนาวุธพิสัยไกล หรือ ขีปนาวุธทางยุทธวิธี (Army Tactical Missile System- ATACMS) ที่ได้รับสนับสนุนจากสหรัฐ ในการโจมตีเข้าไปในรัสเซีย โดยเฉพาะในภูมิภาคเคิร์ส ของรัสเซีย ที่มีกองทัพยูเครนเข้าไปปฏิบัติการ และกำลังเผชิญการสู้รบกับกองทัพรัสเซียและเกาหลีเหนืออย่างดุเดือด …แต่การตัดสินใจของประธานาธิบดีไบเดนมีเหตุผลที่ต้องการช่วยเหลือยูเครนที่เผชิญการต่อสู้อันยากลำบาก เพราะเผชิญกับทั้งทหารรัสเซียและทหารเกาหลีเหนือกว่า 12,000 คนในภูมิภาคเคิร์ส และเชื่อว่ายูเครนพร้อมใช้ขีปนาวุธแล้ว เพราะสหรัฐฯ ได้ส่งไปให้ล่วงหน้าตั้งแต่ มีนาคม 2567 และที่ผ่านมา ยูเครนก็ใช้อาวุธ ATACMS…