จากการเสิร์ชหาข้อมูลใน Google มาถึงการสร้างสังคมใน Facebook จนมาถึงการซื้อของผ่านแอปพลิเคชั่นต่างๆ มนุษย์ใช้เวลาอยู่กับโลกอินเทอร์เน็ตมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการค้นหาข้อมูล ทำงาน สื่อสารหรือการซื้อของออนไลน์ ตามสถิติเป็นเวลารวมมากกว่า 9 – 10 ชั่วโมงต่อวัน กิจกรรมบนโลกออนไลน์ที่ยาวนานทำให้อินเทอร์เน็ตมีมูลค่ามหาศาล และเรากำลังจะก้าวต่อไปในการสร้างโลกเสมือน (metaverse) สร้างสังคมเครือข่าย ความบันเทิงและกิจกรรมทางเศรษฐกิจข้างในนั้น การสร้างประสบการณ์ในโลกเสมือนจึงกลายเป็นโจทย์สำคัญของหลายธุรกิจที่จะต้องแย่งชิงพื้นที่เพื่อโฆษณาขายสินค้าให้กลุ่มคนที่จะเข้าไปในโลกเสมือน รวมทั้งสร้างไอเท็มสุดพิเศษที่มีเพียงไม่กี่ชิ้นในโลก (limited edition) ที่จะทำให้มูลค่าสูงขึ้น จำเป็นต้องสะสมทรัพยากรดิจิตอลให้มากพอ เพื่อให้สามารถได้มา
เป็นที่ยอมรับกันในกลุ่มผู้เล่น E-sport ว่าพวกเขาสามารถสื่อสารและแลกเปลี่ยนไอเท็มกันในโลกอินเทอร์เน็ตได้ ผู้เล่นที่เล่นมานาน และมีความชำนาญจะมีไอเท็มพิเศษที่หายากให้กับผู้เล่นหน้าใหม่ที่อยากจะก้าวเข้าสู่ระดับ (level) ที่สูงขึ้น โดยต้องใช้เงินซื้อไอเทมนั้น กติกาดังกล่าวทำให้ผู้เล่นเกม (gamer) หลายคนสามารถสร้างรายได้มหาศาลจากการเล่นเกม หรือการแลกเปลี่ยนกันในโลกอินเทอร์เน็ต และด้วยเทคโนโลยี blockchain ที่เข้ามาช่วยรับประกันมูลค่าทรัพย์สินในโลกเสมือนป้องกันการคัดลอก (copy) อย่างไม่จำกัด ก็ทำให้ผู้ใช้งาน (user) ต่างๆ สามารถมั่นใจได้ว่า สินค้า บริการ หรือประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับนั้นเป็นสิ่งพิเศษที่คุ้มค่าต่อการจ่าย หรือแลกมาที่คุ้มค่าจริงๆ ทำให้การสะสมผลงานศิลปะที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกนั้น ไม่ต่างกับผลงานศิลปะแบบ Non-Fungible Token (NFT) ที่ทำการซื้อขายในโลกอินเตอร์เน็ตนั่นเอง
การแลกเปลี่ยนดังกล่าว คือ ระบบเศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นในโลกเสมือน ที่จะมีการค้าขาย การเจรจาธุรกิจ และการบ่งบอกตัวตนสถานะใหม่ด้วยไอเท็มเสริมสุดอลังการเกินจินตนาการที่โลกความจริงไม่สามารถให้ได้ เราจะเป็นใครก็ได้!! …สร้างตัวตนใหม่ในโลกเสมือนที่ต่างจากโลกความจริง คว้าโอกาสทางสังคมใหม่ๆ จากทักษะที่แตกต่างไปจากเดิม สู่ความสำเร็จในโลกเสมือนที่ไม่สามารถทำได้ในโลกของความเป็นจริง
อย่างไรก็ตาม โลกเสมือนยังคงถูกขับเคลื่อนด้วยการแข่งขัน การคว้าโอกาส และการสร้างฐานะทางสังคม ที่ได้มาด้วยทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด แม้จะสร้างสรรค์ได้มากกว่า แต่ “การแย่งชิงทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ให้กับความต้องการที่มีอยู่อย่างไม่จำกัด” ….นั่นก็ไม่ต่างจากโลกของความจริง
ในเมื่อไอเท็มสุดหรูจากแบรนด์ดังที่ใช้บ่งบอกสถานะทางสังคม ยังคงครอบครองได้แค่บุคคลบางกลุ่มเท่านั้น และการสร้างรูปร่างหน้าตาตัวตนในโลกเสมือนก็เช่นกัน ทั้งที่ในโลกเสมือนเราสามารถใช้ทรัพยากรดิจิตอลได้ไม่จำกัด ทุกๆ คนสามารถเข้าถึงประสบการณ์ ความรู้ การศึกษาได้อย่างเท่าเทียม… หรือเท่าที่อินเทอร์เน็ตทำให้การสืบหาแหล่งข้อมูลทำได้ง่ายและกระจายความรู้ได้รวดเร็วกว่าการสืบค้นในห้องสมุด แต่ด้วยรูปแบบธุรกิจที่จะเกิดขึ้นในโลกเสมือน ก็ทำให้เกิด “การแบ่งแยกชนชั้น” จากระดับการเข้าถึง แน่นอนว่าระบบเศรษฐกิจนั้นจะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยี จนทำให้เราเขยิบเข้าใกล้โลกเสมือนมากขึ้น แต่หากผู้ใช้โลกเสมือนยังมีพฤติกรรมเหมือนเดิม ๆ ที่มุ่งจะเอาชนะในการแข่งขัน สร้างความขัดแย้ง และบางส่วนอาจใช้ประโยชน์ในโลกเสมือนก่ออาชญากรรม สุดท้าย…สังคมไม่ว่าจะเป็นโลกจริงหรือโลกเสมือน …ก็จะไม่มีอะไรแตกต่างกัน
จากโลกเสมือนที่สุดล้ำจินตนาการ ไม่ว่าจะการแต่งตัว ทรงผม สีผิว ความสูงหรือแม้แต่เพศกำเนิด รวมทั้งการสร้างสรรค์ตัวตนใหม่ในโลกเสมือนที่น่าตื่นเต้น เราอยากจะชวนทุกคนมาลองคิดในมุมกลับ…ด้วยการสร้างร่างเสมือนในอินเทอร์เน็ตหรืออวตาร (Avatar) ที่ไม่แตกต่างกัน ไม่มีการตกแต่งให้สวยงามโดดเด่นกว่ากัน ไม่มีการแบ่งแยกกลุ่มกัน และสามารถสื่อสารกันได้ โดยไม่สนใจรูปลักษณ์หรือเครื่องหมายที่แสดงฐานะทางสังคมใดๆ อยู่ในโลกเสมือน นอกจากนี้ ทุกอวตารสามารถรับประสบการณ์ที่ไม่แตกต่างกันด้วย เพื่อส่งเสริมให้โลกเสมือนกลายเป็นโลกแห่งความเท่าเทียม สงบและปลอดภัย เป็นสถานที่ไว้หลีกหนีความวุ่นวายและการแข่งขันที่เกิดขึ้นในโลกความจริง อาจทำให้โลกเสมือนมีส่วนช่วยในการพัฒนาสังคมมนุษย์ ชี้นำแนวทางการแก้ไขปัญหาสังคม และช่วยทำให้เราเข้าถึงจิตใจของมนุษย์ได้มากขึ้นก็เป็นได้
สุดท้ายแล้ว…ไม่ว่าโลกเสมือนจะออกมาเป็นแบบไหน จะขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของผู้เข้าใช้ (user) และพฤติกรรมของมนุษย์ก็จะยังคงดำเนินไปด้วยความหลากหลาย แม้เราจะมีโอกาสสร้างโลกเสมือนให้มีความเท่าเทียมทางสังคมได้จริง แต่เรื่องนั้นก็ขึ้นอยู่กับความสามารถในการเข้าถึงโลกเสมือนด้วย เราจะเท่าเทียมได้อย่างไร? หากการซื้อหาอุปกรณ์ เครื่องมือ หรืออินเทอร์เน็ต ยังเป็นอุปสรรคในการเข้าถึงโลกเสมือน ดังนั้น…ต่อให้เป็นโลกเสมือนในยุคดิจิตอล หรือการอพยพไปตั้งถิ่นฐานบนดาวเคราะห์ดวงใหม่ ก็คงไม่ช่วยให้ปัญหาทางสังคมหมดไป หากเรายังไม่เห็นถึงความสำคัญที่จะสร้างความเท่าเทียมให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันเอง
———————————————————–