ปัจจุบัน Cardano หรือ ADA เหรียญยอดนิยมอีกหนึ่งเหรียญสำหรับนักลงทุน Cryptocurrency ไทยได้เข้าสู่ตลาดขาลงมาแล้วเป็นเวลากว่า 4 เดือน หลังจากไม่สามารถปรับตัวขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ (new high) ในช่วงตุลาคม 2564 พร้อมกับมีสัญญาณลวงในการทะลุแนวต้าน (fake-out) จากเส้นแนวทแยงมาแล้วมากกว่า 3 ครั้ง แต่ไม่เคยขึ้นไปยืนเหนือเส้นแนวต้านดังกล่าวเลย ทำให้ราคาร่วงลงมาถึงแนวรับสำคัญสุดท้ายของปี 2564 คือบริเวณโซน $1-$1.2 ที่เคยเป็นฐานคอยรับราคา ADA มาหลายครั้งตั้งแต่ช่วงมีนาคม เมษายน พฤษภาคม และกรกฎาคม 2564 โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ในตลาดยังคงมีความเชื่อว่าแนวรับดังกล่าวนี้จะมีความแข็งแรงจากกำแพงแรงซื้อมากเพียงพอที่จะช่วยพยุงราคาไม่ให้หลุดลงไปต่ำกว่า $1 ได้ เพราะเมื่อใดก็ตามที่ ADA ราคาร่วงหลุดลงไปต่ำกว่า $1 แนวรับถัดไปที่อาจจะรับ ADA อยู่ อาจกลายเป็น $0.7 และ $0.38 ตามลำดับ เนื่องจาก ADA ได้ทะลุแนวรับสำคัญทั้งหมดที่เคยมีขีดความสามารถในการรองรับราคามาแล้ว
หากแนวรับที่ $1 และ $1.2 สามารถรองรับราคา ADA ไว้ได้ โดยไม่หลุดลงไป ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงมาก เนื่องจากเป็นโซนราคาที่นักลงทุนรายใหญ่มักตั้งคำสั่งซื้อรอล่วงหน้าเอาไว้ พร้อมกันนี้อาจมีแรงซื้อจากนักลงทุนจำนวนมากตามเข้ามาช่วยดันราคาตามกระแส (follow-buy) ในกรณีที่ปรากฏกราฟเป็นแท่งสีเขียวดีดขึ้นมาจากโซนแนวรับ โดยอาจผลักราคา ADA ให้กลับขึ้นไปทดสอบแนวต้านที่บริเวณ $1.3 และ $1.4 ได้ตามลำดับในช่วงกลางมกราคม 2565 เพื่อเตรียมกลับไปทดสอบแนวต้านบริเวณจุดตัดระหว่างเส้นแนวทแยงทั้ง 2 เส้นในอดีตที่ราคา $1.7 ในปลายเดือนเดียวกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นการที่ราคา ADA จะขึ้นกลับไปได้ อาจต้องพิจารณามิติด้านเงินทุน (Market cap) ที่ไหลออกจาก Bitcoin เข้ามาสู่ ADA ด้วย เนื่องจาก ADA เป็นเหรียญในตลาดรอง (altcoin) จึงต้องพึ่งพาเงินทุนจากตลาดหลักอย่าง Bitcoin เข้ามาช่วยดันราคาในช่วงเวลาที่ราคา Bitcoin ไม่สามารถเลือกทิศทางได้ (sideway)
และเมื่อกลับมาดูที่ปริมาณแรงซื้อ-แรงขายผ่านเครื่องมือ Relative Strength Index (RSI) จะเห็นได้ว่าปัจจุบัน ADA กำลังส่งสัญญาณการกลับตัวจากขาลงเป็นขาขึ้นผ่านค่า RSI ที่บ่งชี้ว่าแรงขายได้เบาลงมากแล้ว แม้ราคาจะยังไม่ได้ขึ้นตามการเหวี่ยงของกราฟ RSI แต่ในภาพรวมถือว่า ADA สามารถทะลุกรอบสามเหลี่ยมออกมายืนเหนือบริเวณค่า 38-40 ของ RSI ได้ โดยหากค่า RSI ของ ADA นั้นสามารถรักษาแรงซื้อให้อยู่เหนือระดับ 40 จะเป็นสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นว่า ADA กำลังจะกลับเข้าสู่ตลาดขาขึ้นอีกครั้ง หลังจากจมอยู่ในตลาดขาลงมาตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 เนื่องจาก ADA สามารถทะลุออกมาจากแนวต้านเส้นทแยง (trendline) ที่แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อที่เบาบางลง (bearish divergence) อย่างต่อเนื่องมาแล้วเมื่อช่วงธันวาคม 2564 อีกทั้งยังปรากฏรูปแบบการเคลื่อนตัวแบบสามเหลี่ยมที่แรงซื้อไม่หลุดลงไปต่ำกว่าค่า 32-33 ของ RSI มาเป็นเวลากว่า 1 เดือนด้วย
ท้ายสุด เมื่อพิจารณาจากเส้นค่าเฉลี่ยสำหรับวัดแรงซื้อ-ขาย (Moving Average Convergence Divergence-MACD) จะเห็นว่าปัจจุบันเส้นค่าเฉลี่ยที่แสดงแรงซื้อกำลังปรับตัวสูงขึ้น โดยเกิดการไขว้กันแล้ว และกำลังพยายามปรับตัวขึ้นมายืนอยู่เหนือเส้นแนวต้านสีแดง ซึ่งหากสามารถผ่านแนวต้านเส้นสีแดงไปได้ แรงซื้อจากนักลงทุนอาจเพิ่มกลับเข้ามา และพาให้เส้นค่าเฉลี่ยกลับไปทดสอบแนวต้านที่บริเวณโซน 0 ได้ อย่างไรก็ดี จากแรงขายที่ถูกเทลงมาในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ทำให้เส้นค่าเฉลี่ยของ MACD ตกลงมาติดลบไปกว่า 0.3 เหรียญ ADA จึงอาจต้องใช้เวลาอย่างน้อย 3 สัปดาห์-1 เดือนหลังจากนี้ในการกลับไปทดสอบแนวต้านโซน 0 และทะลุขึ้นไปเพื่อพลิกให้แนวต้านเป็นแนวรับ แล้วยืนยันการเข้าสู่ตลาดขาขึ้นอีกครั้ง
***บทความนี้เป็นบทความสรุปความเคลื่อนไหวของตลาดสกุลเงินดิจิทัล ไม่ใช่คำแนะนำการลงทุน The Intelligence มีข้อพิจารณาว่าการลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้าน ก่อนตัดสินใจลงทุน***