นายจอห์น ลี วัย 64 ปี อดีตผู้บริหารเขตบริหารพิเศษฮ่องกงฝ่ายบริหาร และเป็นผู้ลงรับสมัครเลือกตั้งเพียงคนเดียวของฮ่องกง ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าผู้บริหารฮ่องกงคนใหม่เมื่อ 8 พฤษภาคม 2565 ด้วยคะแนนเสียงร้อยละ 99 ของคณะกรรมการการเลือกตั้งฮ่องกง และจะเข้ารับตำแหน่งใน 1 กรกฎาคม 2565 ต่อจากนางแคร์รี่ ลัมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระ 5 ปี
ทันทีที่ทราบผลการเลือกตั้ง นาย Josep Borrell หัวหน้าฝ่ายนโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรปได้แสดงท่าทีคัดค้านการเลือกตั้งครั้งนี้ ที่ขัดกับหลักการประชาธิปไตยและการมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างตรงไปตรงมา ทำให้ทางการฮ่องกงตอบโต้กลับไปอย่างไม่ประนีประนอมเช่นกันว่าเป็นกิจการภายในของฮ่องกง
นายลีรับราชการตำรวจมากกว่า 30 ปี ถือเป็นตำรวจสายเหยี่ยวที่มีท่าทีแข็งกร้าวและเด็ดเดี่ยว ก่อนลาออกจากราชการเพื่อเข้ารับตำแหน่งทางการเมือง ในฐานะผู้บริหารด้านความมั่นคงเมื่อปี 2560 ที่มุ่งจับกุมแกนนำกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยและนักการเมืองมากกว่า 50 คน และสั่งปราบปรามกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างรุนแรง ด้วยการฉีดน้ำแรงดันสูงใส่ฝูงชนในช่วงการประท้วงรัฐบาลครั้งใหญ่เมื่อปี 2562 นายลียังเชี่ยวชาญด้านการบังคับใช้กฎหมาย ทั้งการประกาศใช้กฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน และกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของฮ่องกงเมื่อปี 2563 ที่ได้ดำเนินคดีบุคคลไปแล้ว 150 คน ในระยะ 2 ปี
จุดนี้เองที่ทำให้บทบาทของนายลีโดดเด่นและเข้าตารัฐบาลจีน และสนับสนุนให้เขาลงสมัครตำแหน่งหัวหน้าผู้บริหาร ถัดจากนางลัม ที่มีภาพลักษณ์เป็นผู้นำเจ้าน้ำตา ร้องไห้ต่อหน้าสื่อมวลชนมาแล้ว ประกอบกับคะแนนนิยมของนางลัมตกต่ำอย่างมาก จากการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน นายลีจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและตอบโจทย์รัฐบาลจีนกว่ามาก
แน่นอนอยู่แล้วว่า นายลีผู้มีประสบการณ์งานความมั่นคง มีแนวโน้มจะให้ความสำคัญกับการสร้างเสถียรภาพทางการเมืองของฮ่องกงเป็นหลัก ด้วยการแก้ไขมาตราที่ 23 ของรัฐธรรมนูญฮ่องกง ที่เกี่ยวข้องกับข้อห้ามการกระทำที่เกี่ยวกับการแบ่งแยกดินแดน กบฏ ล้มล้าง หรือยุยงปลุกปั่น เพื่อส่งเสริมการบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ของฮ่องกง ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แม้ว่านายลีเป็น 1 ในเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮ่องกงและจีนที่ถูกทางการสหรัฐฯ คว่ำบาตร เพราะเกี่ยวข้องกับการจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชนก็ตาม
ในด้านเศรษฐกิจ นายลีจะมุ่งสร้างความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกับจีน การส่งเสริมการลงทุนของฮ่องกงในต่างประเทศ รวมทั้งแก้ไขการขาดแคลนที่อยู่อาศัย ซึ่งขาดความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน ปัจจุบันชาวฮ่องกงมากกว่า 220,000 คน อาศัยในพื้นที่ขนาดเล็กและแออัด ซึ่งมีเนื้อที่เฉลี่ยคนละประมาณ 10 ตารางเมตรเท่านั้น บางครอบครัวรอการจัดสรรที่อยู่อาศัยของรัฐบาลโดยเฉลี่ย 6 ปี และยาวนานสูงสุดถึง 23 ปี
ความสำเร็จของนายลีเป็นผลพวงมาจากการที่รัฐบาลจีนปฏิรูประบบเลือกตั้งของฮ่องกงเมื่อปี 2564 โดยปรับจำนวนคณะกรรมการการเลือกตั้งเพิ่มขึ้น 1,500 ตำแหน่ง จากเดิม 1,200 ตำแหน่ง และปรับจำนวนให้คณะกรรมการ ที่มาจากการเลือกตั้งทางตรงลดลงร้อยละ 22 จากเดิมร้อยละ 50 รวมทั้งกำหนดให้เป็นบุคคลที่ต้องจงรักภักดีต่อชาติเท่านั้น เพราะฉะนั้น การรับตำแหน่งของนายลี จึงสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลจีนยังคงกังวลต่อปัญหาความมั่นคงทางการเมืองในฮ่องกง แม้แกนนำกลุ่มสนับสนุนประชาธิปไตยส่วนใหญ่ รวมทั้งนายโจชัวร์ หว่อง อยู่ระหว่างการจำคุก และบางส่วนพำนักในต่างประเทศ และแม้กระทั่งฮ่องกงเผชิญปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวต่อเนื่อง ซึ่งล้วนกระทบต่อการฟื้นฟูความเชื่อมั่นของฮ่องกง ในฐานะศูนย์กลางการเงินระดับโลก
————————————-