ข้อคิดจากรายงานประเมินภัยก่อการร้ายประจำปี 2567 ของสิงคโปร์
หากไม่นับฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย รวมถึงมาเลเซียที่มักมีข่าวสารเกี่ยวกับการก่อการร้ายทั้งกลุ่มก่อเหตุ การก่อเหตุ และการมีคอนเนคชั่นกับกลุ่มก่อการร้ายในภูมิภาคอื่นให้ได้ยินได้ฟังบ่อยครั้งมากกว่าประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สิงคโปร์ก็เป็นอีกประเทศที่มีความตื่นตัวในการเตรียมการรับมือกับปัญหาการก่อการร้ายในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงจากฝีมือของกลุ่มก่อการร้ายต่างชาติ หรือจากพลเมืองสิงคโปร์ที่รับแนวคิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายผ่านสื่อออนไลน์ รายงานประเมินภัยคุกคามการก่อการร้ายประจำปี 2567 ของสิงคโปร์ที่เผยแพร่เมื่อช่วงปลายกรกฎาคม 2567 สะท้อนถึงความระมัดระวังภัยจากการก่อการร้ายของสิงคโปร์ด้วยการประเมินว่า… ภัยจากการก่อการร้ายต่อสิงคโปร์ยังมีอยู่สูง แม้ไม่มีสิ่งบ่งชี้ว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววัน โดยความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮะมาสเป็นสาเหตุหลักที่สร้างความหวาดวิตกให้สิงคโปร์ ไม่ต่างจากประเทศอื่นที่กังวลว่าการใช้ความรุนแรงตอบโต้กันระหว่างอิสราเอลกับฮะมาสจะไม่จำกัดวงแค่นั้น เนื่องจากมีอีกหลายตัวแสดงเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งระดับรัฐและที่ไม่ใช่รัฐ อีกทั้งในสิงคโปร์มีกระแสต่อต้านท่าทีของทางการต่อความขัดแย้งดังกล่าวผ่านสื่อออนไลน์ โดยชาวเน็ตบางกลุ่มมองว่าสิงคโปร์มีนโยบายเข้าข้างอิสราเอล ขณะที่กลุ่ม Islamic State (IS) ยังเป็นกลุ่มก่อการร้ายที่ถือเป็นภัยคุกคามหลักทั้งของโลกและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะเครือข่ายที่เคลื่อนไหวในอิรักและซีเรีย เพราะยังเป็นแรงบันดาลใจและมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มหัวรุนแรงในภูมิภาค แม้ที่ผ่านมาอาจกล่าวได้ว่าประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่ว่าจะเป็นอินโดนีเซียหรือฟิลิปปินส์มีมาตรการต่อต้านการก่อการร้ายอย่างแข็งขันจนทำให้กลุ่มก่อการร้ายในทั้งสองประเทศอ่อนกำลัง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Abu Sayyaf ที่สูญเสียสมาชิกระดับนำและมีประสบการณ์ หรือในอินโดนีเซียที่กลุ่ม Jemaah Islamiyah (JI) ประกาศยุบกลุ่มไปเมื่อต้นกรกฎาคม 2567 …