Author Archives: The Intelligence Team

มาเลเซียจะใช้การทูตฮาลาลส่งเสริมบทบาทนำในอุตสาหกรรมฮาลาลโลก

ดาโต๊ะ ซรี อะห์หมัด ซาฮิด ฮามีดี รองนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาชนบทและภูมิภาค และประธานพรรคอัมโน (พรรคร่วมรัฐบาล) กล่าวในงาน World Halal Excellence Awards 2022 เมื่อ 5 ก.ค.66 ว่า บริษัท Halal Industry Development Corporation (HDC) ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศ ควรทำงานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ในการผลักดันการทูตฮาลาล (Halal Diplomacy) เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมฮาลาลของมาเลเซียให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก ปัจจุบัน ประเทศและองค์กรหลายแห่งมองมาเลเซียเป็นต้นแบบการพัฒนาอุตสาหกรรมฮาลาล จึงเป็นโอกาสให้มาเลเซียถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับอุตสาหกรรมฮาลาลให้กับนานาประเทศผ่านการทูตฮาลาล ซึ่งจะทำให้มาเลเซียมีบทบาทนำในการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์และบริการฮาลาล การอำนวยความสะดวกการบริการฮาลาลข้ามพรมแดน การกระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีและงานวิจัย และการส่งเสริมกระบวนการตรวจสอบผลิตภัณฑ์ฮาลาลที่ไร้ข้อจำกัด ทั้งนี้ มาเลเซียกำหนดเป้าหมายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมฮาลาลโลก มุ่งขยายตลาดฮาลาลให้มีมูลค่ากว่า 113,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2573

เกาหลีใต้เคารพผลการพิจารณาของ IAEA ว่าแผนการปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะของญี่ปุ่นปลอดภัย

สำนักข่าว Yonhap ของเกาหลีใต้ รายงานเมื่อ 5 ก.ค.66 ว่า เกาหลีใต้เคารพผลการพิจารณาของทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (International Atomic Energy Agency-IAEA) ต่อความปลอดภัยของแผนการปล่อยน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะที่ 1 ของญี่ปุ่น โดย IAEA ระบุว่า แผนการของญี่ปุ่นเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย และน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดแล้วจะมีผลกระทบจากรังสีต่อคนและสิ่งแวดล้อมเพียงเล็กน้อย นอกจากนี้ นายพัก คู-ย็อน รองผู้อำนวยการลำดับที่ 1 ของสำนักประสานงานนโยบายรัฐบาล ระบุว่า เกาหลีใต้จะเร่งการประกาศรายงานทางวิทยาศาสตร์ต่อประเด็นดังกล่าว ซึ่งจะประกาศพร้อมกับรายงานผลการวิเคราะห์เชิงลึกขั้นสุดท้ายของ IAEA เกาหลีใต้และ IAEA ยังมีแผนจะทำการทดสอบตัวอย่างน้ำจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะเพิ่มเติม และจัดทำรายงานร่วมกันในปลายปี 2566 ทั้งนี้ ญี่ปุ่นอาจเริ่มการปล่อยน้ำจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะอย่างเร็วที่สุดใน ส.ค.66 แม้จะมีการคัดค้านอย่างต่อเนื่องจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงเกาหลีใต้และจีน

สหราชอาณาจักรปฏิบัติการกวาดล้างแหล่งรายได้ขององค์กรอาชญากรรม

สำนักข่าว BBC รายงานเมื่อ 6 ก.ค.66 ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสหราชอาณาจักรปฏิบัติการกวาดล้างองค์กรอาชญากรรม (Organised Crime Gangs-OCGs) ครั้งใหญ่ทั่วสหราชอาณาจักรเมื่อ มิ.ย.66 โดยปฏิบัติการดังกล่าวชื่อ “Operation Mille” ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การตรวจค้นและยึดสิ่งที่จะสามารถทำรายได้ให้กับ OCGs รวมถึงรวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับเครือข่ายของ OCG โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถยึดต้นกัญชาจำนวนมาก มูลค่าประมาณ 130 ล้านปอนด์ (ประมาณ 165 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) อาวุธปืน 20 กระบอก เงินสด  และโคเคน 20 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 1 ล้านปอนด์ (ประมาณ 1.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) รวมถึงจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องได้ประมาณ 1,000 คน และตั้งข้อหาประมาณ 450 คน

ภาคประชาสังคมในฝรั่งเศสจะรวมตัวประท้วงกรณีเจ้าหน้าที่ยิงเยาวชนเสียชีวิต

สำนักข่าว Anadolu Agency รายงานเมื่อ 5 ก.ค.66 ว่าภาคประชาสังคมของฝรั่งเศสประมาณ 90 องค์กรเชิญชวนให้ประชาชนออกมาเดินขบวนประท้วงใน 8 ก.ค.66 เพื่อเรียกร้องกรณีตำรวจยิงเยาวชนชาย อายุ 17 ปี เชื้อสายแอลจีเรีย-โมร็อกโก เสียชีวิตที่เมืองนองแตร์ ฝรั่งเศสเมื่อ 27 มิ.ย.66 โดยองค์กรต่าง ๆ ในฝรั่งเศส เช่น แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล กรีนพีซ และสหภาพแรงงานฝ่ายซ้าย มองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงการเหยียดเชื้อชาติอย่างเป็นระบบในสังคมฝรั่งเศส และนโยบายเลือกปฏิบัติต่อชนชั้นแรงงาน ดังนั้นจึงเชิญชวนประชาชนให้ออกมาร่วมเดินขบวนประท้วงเรียกร้องให้รัฐบาลรับผิดชอบและหาวิธีแก้ไขปัญหาในทันทีเพื่อยุติการเผชิญหน้า รวมถึงต้องการให้มีการปฏิรูปตำรวจในเชิงลึกเกี่ยวกับการใช้เทคนิคการแทรกแซงและการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่

มัลดีฟส์ประณามอิสราเอลอย่างรุนแรงกรณีเหตุปะทะในเมือง Jenin

เว็บไซต์สถานีโทรทัศน์ช่อง Raajje ของมัลดีฟส์ รายงานเมื่อ 5 ก.ค.66 ว่ารัฐบาลมัลดีฟส์ออกแถลงการณ์ประณามอิสราเอลอย่างรุนแรงกรณีกองทัพอิสราเอลส่งทหารเข้าปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นที่เมือง Jenin เมื่อ 3 ก.ค.66 จนเกิดเหตุการณ์ปะทะกันรุนแรง และทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 12 คน (ชาวปาเลสไตน์ 12 คน และทหารอิสราเอล 1 นาย) แต่กองทัพอิสราเอลระบุว่า เป้าหมายของการส่งทหารมากกว่า 1,000 นาย ไปปฏิบัติการที่เมือง Jenin ก็เพื่อทำลายแหล่งหลบซ่อนของสมาชิกกลุ่มติดอาวุธที่ค่ายผู้อพยพในเมืองดังกล่าว นอกจากนี้ แถลงการณ์ของรัฐบาลมัลดีฟส์ยังย้ำจุดยืนสนับสนุนการเป็นรัฐเอกราชของปาเลสไตน์ที่มีนครเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวง

สหรัฐฯ ประณามฮ่องกง กรณีเสนอรางวัลนำจับนักเคลื่อนไหวทางการเมือง

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงเมื่อ 4 ก.ค.66 ประณามทางการเขตบริหารพิเศษฮ่องกง กรณีสำนักงานตำรวจฮ่องกงเสนอรางวัลนำจับนักเคลื่อนไหวทางการเมืองที่ลี้ภัยอยู่ในต่างประเทศ (สหรัฐฯ สหราชอาณาจักร แคนาดา และออสเตรเลีย) จำนวน 8 ราย ได้แก่ นาย Nathan Law นาย Dennis Kwok และนาย Ted Hui อดีตฝ่ายนิติบัญญัติฮ่องกง นาย Kevin Yam นาย Finn Lau น.ส. Anna Kwok และนาย Elmer Yuan นักเคลื่อนไหวทางการเมืองฮ่องกง และนาย Mung Siu-tat อดีตผู้นำสมาพันธ์แรงงานฮ่องกง เป็นเงินรายละประมาณ 127,650 ดอลลาร์สหรัฐ โทษฐานกระทำละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฮ่องกง ทั้งนี้นาย Matthew Miller โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ชี้ว่า การบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาตินอกเขตอำนาจรัฐดังกล่าวเป็นแบบอย่างที่อันตราย ซึ่งคุกคามสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของผู้คนทั่วโลก รวมถึงขอให้ฮ่องกงถอนรางวัลนำจับดังกล่าวทันที และเคารพอธิปไตยของประเทศอื่น

อินโดนีเซียเรียกร้องให้ UN บังคับใช้มติเกี่ยวกับปาเลสไตน์โดยทันที

หนังสือพิมพ์ Arab News รายงานเมื่อ 4 ก.ค.66 อ้างแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย เรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council-UNSC) ดำเนินการตามข้อมติทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับปาเลสไตน์โดยทันที พร้อมกับประณามการโจมตีของอิสราเอลในพื้นที่เมืองเจนิน ในเขตเวสต์แบงก์ของปาเลสไตน์ เมื่อ 3 ก.ค.66 ว่าไม่สามารถยกเว้นโทษได้ เนื่องจากการกระทำดังกล่าวของอิสราเอลเป็นผลให้พลเรือนชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายสิบคน และยังส่งผลกระทบให้สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมในปาเลสไตน์เลวร้ายลง ตลอดจนความพยายามสร้างสันติภาพซับซ้อนขึ้น ขณะเดียวกัน คณะกรรมการกู้ภัยฉุกเฉินทางการแพทย์ ซึ่งเป็นองค์กรพัฒนาเอกชนของอินโดนีเซียที่ให้ความช่วยเหลือบรรเทาทุกข์ในปาเลสไตน์ เรียกร้องให้อิสราเอลหยุดการโจมตีและถอนทหารทั้งหมดออกจากเมืองเจนิน และเสนอให้ UNSC ส่งทีมสังเกตการณ์เข้าไปดูแลและตรวจสอบว่าอิสราเอลถอนทหารออกจริงและจะไม่เปิดการโจมตีอีก ทั้งนี้ UNSC ได้ผ่านมติเกี่ยวกับปาเลสไตน์มากกว่า 180 ฉบับตั้งแต่ปี 2491 รวมถึงฉบับล่าสุดเมื่อปี 2559 ที่เรียกร้องให้อิสราเอลยุติการสร้างถิ่นฐานในดินแดนปาเลสไตน์ที่ยึดครองมาตั้งแต่ปี 2510 ขณะที่อินโดนีเซียเป็นผู้สนับสนุนปาเลสไตน์มาอย่างยาวนาน โดยเรียกร้องให้มีการแก้ปัญหาแบบ 2 รัฐ โดยมีรัฐปาเลสไตน์อิสระตั้งอยู่บนพื้นที่พรมแดนก่อนปี 2510 ที่มีกรุงเยรูซาเล็มตะวันออกเป็นเมืองหลวง

สหภาพยุโรป (EU) ยังคงคว่ำบาตรคอซอวอ

สำนักสำนักข่าว VOA รายงานเมื่อ 4 ก.ค.66 อ้างถ้อยแถลงของนาย Miroslav Lajcak ทูตของสหภาพยุโรป (European Union-EU) ระหว่างเดินทางเยือนกรุงพริสตีนา คอซอวอ ว่า EU จะไม่ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางการเมืองและเศรษฐกิจต่อคอซอวอ จนกว่ารัฐบาลคอซอวอจะลดความตึงเครียดกับกลุ่มชาติพันธุ์เซิร์บซึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยในพื้นที่ลง ทั้งนี้ EU กำหนดมาตรการคว่ำบาตรคอซอวอ ซึ่งมีประชากรส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์แอลเบเนีย หลังจากรัฐบาลของนายอัลบิน เคอร์ตี นายกรัฐมนตรีคอซอวอ ไม่ปฏิบัติตามคำร้องขอของ EU และสหรัฐฯ ที่ให้แก้ไขความขัดแย้งทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งทวีความรุนแรงขึ้นนับตั้งแต่ เม.ย.65 ภายหลังมีการแต่งตั้งนายกเทศมนตรีเชื้อสายแอลเบเนียให้ดำรงตำแหน่งในพื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศที่มีประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวเซิร์บ มาตรการดังกล่าวรวมถึงการระงับไม่ให้ผู้แทนคอซอวอเดินทางเยือน EU และการระงับความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจส่วนใหญ่จากประเทศสมาชิก EU นอกจากนี้ EU ยังเตือนว่าอาจมีมาตรการคว่ำบาตรหรือลงโทษเพิ่มเติม หากรัฐบาลคอซอวอยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้

จีนจะควบคุมการส่งออกวัตถุดิบสำหรับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ตั้งแต่ 1 ส.ค.66

กระทรวงพาณิชย์และศุลกากรจีน แถลงเมื่อ 3 ก.ค.66 ว่า ทางการจะควบคุมการส่งออกสินค้าในรายการที่เกี่ยวข้องกับแกลเลียม (Gallium) 8 รายการ และเจอร์เมเนียม (Germanium) 6 รายการ ตั้งแต่ 1 ส.ค.66 เพื่อปกป้องผลประโยชน์และความมั่นคงของประเทศ ซึ่งแร่ทั้ง 2 ชนิด จีนเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก เป็นวัตถุดิบสำคัญในการผลิตเซมิคอนดักเตอร์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ โดยผู้ส่งออกสินค้าที่อยู่ในรายการควบคุม ต้องยื่นคำขออนุมัติจากกระทรวงพาณิชย์ก่อนส่งออกสินค้าดังกล่าว ผู้ฝ่าฝืนจะมีโทษทั้งทางแพ่งและอาญา ทั้งนี้ การประกาศควบคุมแร่ดังกล่าว มีขึ้นหลังจากสหรัฐฯ และพันธมิตรออกมาตรการกีดกันจีนออกจากห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์โลกมากขึ้น ล่าสุดรัฐบาลเนเธอร์แลนด์ประกาศควบคุมการส่งออกระบบการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงให้กับจีน

เวียดนามห้ามฉายภาพยนตร์เรื่อง “บาร์บี้” เพราะแสดงแผนที่เส้นประ 9 เส้นของจีน

สำนักข่าว Vietnam News รายงานเมื่อ 3 ก.ค.66 อ้างถ้อยแถลงของนาย Vi Kiến Thành เจ้าหน้าที่สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยวเวียดนาม ในวันเดียวกันว่า กระทรวงฯ มีมติห้ามฉายภาพยนตร์เรื่อง “บาร์บี้” เพราะมีฉากแสดงแผนที่เส้นประ 9 เส้นของจีน ซึ่งละเมิดอธิปไตยของเวียดนาม ทั้งนี้ เวียดนามย้ำหลักฐานทางกฎหมายและประวัติศาสตร์ถึงอธิปไตยของเวียดนามเหนือหมู่เกาะหว่างซา (พาราเซล) และหมู่เกาะเจื่องซา (สแปรตลี) ในทะเลจีนใต้ มาโดยตลอด ก่อนหน้านี้เมื่อปี 2559 ศาลอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศตัดสินว่าการอ้างสิทธิตามแผนที่เส้นประ 9 เส้นของจีนเป็นโมฆะ