ในช่วงปี 2565 ความเดือดร้อนของมนุษย์ที่เป็นผลจากวิกฤตโลกร้อนและปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเหตุการณ์ที่เห็นได้ชัดอย่างเป็นรูปธรรมและส่งผลกระทบรุนแรงจนกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวมากขึ้น “ความตระหนักรู้” เรื่องสิ่งแวดล้อมและภาวะโลกร้อนที่กระจายอยู่ในสื่อต่าง ๆ ทำให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ต่าง ๆ ขยายตัวและกลายเป็นอีกหนึ่งพลังสำคัญที่จะขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาโลกร้อนและสิ่งแวดล้อมให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น การกระจายและกระตุ้นหลักคิดในการรักษาสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นเรื่องที่ดี เพราะความมั่นคงของมนุษย์จะไม่สามารถดำรงอยู่ได้หากสิ่งแวดล้อมเสื่อมโทรม และที่ผ่านมาการรณรงค์ส่วนมากจะอยู่ในรูปแบบการประท้วงโดยสันติ แต่ดูเหมือนว่าในระยะหลังที่มีข่าวสารกรณีกลุ่มนักเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องสิ่งแวดล้อมบางส่วนต้องการเร่งกระตุ้นให้สังคมหันความสนใจไปที่เรื่องเดียวกันนี้อย่างรวดเร็ว …จนอาจเร็วเกินไป กระทั่งทำให้เกิดคำถามเกี่ยวกับความพยายามรักษาและปกป้องสิ่งแวดล้อมด้วยการเรียกร้องความสนใจนั้นเป็นเรื่องที่เหมาะสมแล้วหรือไม่ สิ่งที่บทความนี้กำลังกล่าวถึง คือ กระแส “Painting Protest” หรือการประท้วงเพื่อเรียกร้องประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ด้วยวิธีการสร้างความเสียหายต่อภาพวาด หรือศิลปะชิ้นที่ได้รับความสนใจจากคนหมู่มาก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นบ่อยครั้งในช่วงที่ผ่านมา คาดว่าน่าจะเป็นเพราะช่วงนั้นนานาชาติกำลังจะจัดการประชุม COP27 ที่อียิปต์ รวมทั้งยังเป็นการตอบโต้นโยบายพลังงานของประเทศต่าง ๆ ที่ยังใช้พลังงานฟอสซิลอยู่ด้วย โดยเหตุการณ์ในตุลาคม 2565 คือ กรณีกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อยุติการขุดเจาะน้ำมันที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ชื่อกลุ่ม “Just Stop Oil” ปาซุป มะเขือเทศ (อาหาร) ใส่ภาพวาดชื่อดัง “Sunflowers” ของศิลปิน Vincent van Gogh ที่ตั้งอยู่ในพิพิธภัณฑ์ที่กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร เป้าหมายเพื่อตั้งคำถามต่อผู้ที่สนใจภาพวาดและศิลปะดังกล่าวว่า “อะไรควรจะมีคุณค่ามากกว่ากัน? ระหว่างภาพวาดกับชีวิตคน และคุณจะเลือกปกป้องอะไรระหว่างภาพวาดกับโลก ถ้าคุณเจ็บใจกับภาพวาดที่ถูกทำลาย ก็จงเจ็บใจกับโลกที่กำลังถูกทำลายต่อหน้าต่อตาเช่นกัน”…