The Intelligence Weekly Review (30/04/2023)
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
สำนักข่าว The Irrawaddy รายงานเมื่อ 28 เม.ย.66 ว่า รัฐบาลทหารเมียนมาจับกุมกลุ่มต่อต้านที่เคลื่อนไหวผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง โดยเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในห้วงนี้ คือ กองทัพเมียนมาได้ติดตามและจับกุมผู้ที่เปลี่ยนรูปโปรไฟล์ในเฟซบุ๊กเป็นสีดำ หรือเผยแพร่ความคิดเห็นไว้อาลัยต่อการโจมตีทางอากาศของกองทัพเมียนมาต่อฐานที่มั่นของกองกำลังป้องกันประชาชน (People ‘s Defence Force – PDF) ในหมู่บ้านปาซีจี ภาคสะไกง์ เมื่อ 11 เม.ย.66 เช่น กรณีนาย U Kyaw Min Swe ผู้สื่อข่าว รวมถึงนักแสดงและนักร้องอีก 3 คน ที่ถูกจับกุมและดำเนินคดีอาญาในข้อหายุยงปลุกปั่นเพื่อสร้างความไม่สงบ จากการที่โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวข้องกับเหตุโจมตีดังกล่าว และกรณีการจับกุมดำเนินคดีนักธุรกิจในภาคย่างกุ้งที่เผยแพร่ภาพถ่ายของ พล.จ.ซอมินตุน โฆษกกองทัพเมียนมา ขณะออกบวชเป็นพระสงฆ์ ทั้งนี้ กลุ่มต่อต้านที่ถูกจับกุมจากกรณีเผยแพร่ข่าวสารและโพสต์บนสื่อสังคมออนไลน์ส่วนใหญ่ถูกดำเนินคดีในข้อยุยงปลุกปั่นและการก่อการร้าย ซึ่งมีโทษสุงสุดคือ จำคุกตลอดชีวิต
สำนักข่าว The Irrawaddy รายงานเมื่อ 28 เม.ย.66 อ้างข้อมูลจากเว็บไซต์ Energy Intelligence ของสหราชอาณาจักร ว่า รัสเซียส่งน้ำมันดิบให้กับจีนผ่านท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติในเมียนมา ตั้งแต่ ก.พ.66 รวมแล้วอย่างน้อย 3 ล้านบาร์เรล หรือมากกว่า 100,000 บาร์เรลต่อวัน โดยขนส่งผ่านท่อส่งน้ำมันและก๊าซธรรมชาติที่พาดผ่านตอนกลางของเมียนมาจากท่าเรือน้ำลึกเจ้าผิวในรัฐยะไข่ไปถึงมณฑลยูนนานของจีน ซึ่งเป็นข้อบ่งชี้ว่า บริษัทส่งออกน้ำมันของรัสเซียพยายามหาเส้นทางการส่งออกใหม่ในเอเชีย ซึ่งต้องการซื้อน้ำมันดิบจากรัสเซียจำนวนมาก หลังจากสหภาพยุโรปกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจโดยระงับการนำเข้าน้ำมันดิบของรัสเซีย เมื่อ ธ.ค.65
สำนักข่าว CNN รายงานเมื่อ 27 เม.ย.66 ว่า เกิดเหตุระเบิดรถตู้ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ District Reserve Guard (DRG) ของอินเดีย บริเวณพื้นที่ป่าระหว่างเมือง Dantewada และเมือง Sameli ซึ่งห่างจากเมืองรายปุระ รัฐฉัตตีสครห์ ระยะทาง 450 กิโลเมตร เมื่อ 26 เม.ย.66 โดยกลุ่มผู้ก่อเหตุใช้ระเบิดแสวงเครื่องฝั่งในถนนระหว่างที่รถของ DRG กำลังเดินทางกลับจากภารกิจปฏิบัติการต่อต้านกลุ่มนิยมลัทธิเหมา (Maoist) ทำให้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 11 ราย ทั้งนี้ คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุเป็นกลุ่มนิยมลัทธิเหมา และเป็นเหตุการณ์ครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี นับตั้งแต่ เม.ย.64
กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย รายงานเมื่อ 28 เม.ย.66 ว่า ผู้นำอาเซียนและคณะทำงานระดับสูงว่าด้วยการจัดทำวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลังปี 2568 (High-Level Task Force on ASEAN Community’s Post-2025 Vision-HLTF-ACV) จะหารือเกี่ยวกับร่างวิสัยทัศน์ประชาคมอาเซียนภายหลังปี 2568 มุ่งสู่ปี 2588 (ASEAN Post-2025 Vision towards ASEAN 2045) ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 42 ใน 10 พ.ค.66 ที่เมืองลาบวน บาโจ อินโดนีเซีย เพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ (visionary) ของอาเซียนในห้วง 20 ปีข้างหน้า ที่จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ (inspiring) รอบด้าน (comprehensive) แข็งแกร่ง (robust) และครอบคลุม (inclusive) โดยคาดว่าคณะมนตรีประสานงานอาเซียน (ASEAN Coordinating Council – ACC) จะรับรองในหลักการระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่…
สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้ รายงานเมื่อ 28 เม.ย.66 อ้างแหล่งข่าวในกระทรวงกลาโหม(กห.)เกาหลีใต้ว่า กรณี กห.สหรัฐฯ เตรียมส่งเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ชั้น Ohio ซึ่งสามารถติดตั้งขีปนาวุธระยะไกลพร้อมหัวรบนิวเคลียร์ (Nuclear Powered Ballistic Missile Submarine-SSBN) เยือนท่าเรือเกาหลีใต้ (ยังไม่ระบุห้วงเวลาการเยือน) ภายใต้ “ปฏิญญาวอร์ชิงตัน” หรือผลการประชุมสุดยอดเกาหลีใต้-สหรัฐฯ เมื่อ 26 เม.ย.66 เพื่อส่งเสริมพันธกรณีของสหรัฐฯ ในการขยายการป้องปรามภัยคุกคาม (Extended Deterrence) เพื่อปกป้องเกาหลีใต้และพันธมิตรจากภัยคุกคามด้านขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ โดยใช้ขีดความสามารถทางทหารเต็มรูปแบบ รวมถึงขีดความสามารถด้านนิวเคลียร์นั้น การเยือนดังกล่าวจะไม่กระทบต่อปฏิญญาร่วมระหว่างสองเกาหลีในการปลดอาวุธนิวเคลียร์คาบสมุทรเกาหลี (ลงนามเมื่อ ธ.ค.34) ที่ระบุว่า สองเกาหลีจะไม่ทดสอบ ผลิต รับมอบ ครอบครอง ประจำการ หรือใช้อาวุธนิวเคลียร์ เพื่อป้องกันสงครามนิวเคลียร์ในคาบสมุทรเกาหลี
สำนักข่าว Inquirer รายงานเมื่อ 28 เม.ย.66 ว่ากองทัพอากาศฟิลิปปินส์จะฝึกร่วมทางอากาศกับสหรัฐฯ ภายใต้รหัส “Cope Thunder” ระหว่าง 1-12 พ.ค.66 ที่ฐานทัพอากาศ Clark ในเมือง Pampanga ของฟิลิปปินส์ ทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนกลยุทธ์ เทคนิค และขั้นตอนการปฏิบัติการ เพื่อพัฒนาความสามารถด้านการปฏิบัติการร่วม โดยสหรัฐฯ จะส่งกำลังพลเข้าร่วม 160 คน พร้อมเครื่องบินมากกว่า 12 ลำ จากกองบินขับไล่ที่ 35 ฐานทัพอากาศมิซาวะ ญี่ปุ่น ร่วมฝึกบิน การบำรุงรักษาและสนับสนุนอากาศยาน ทั้งนี้ อากาศยานที่คาดว่าจะถูกนำมาใช้ในการซ้อมรบร่วมครั้งนี้ ได้แก่ เครื่องบินขับไล่หลายบทบาท F-16 ของสหรัฐฯ และเครื่องบินฝึกขับไล่ FA-50 ของฟิลิปปินส์ นับเป็นการรื้อฟื้นการฝึกภายใต้รหัส “Cope Thunder” เป็นครั้งแรกในรอบสามสิบปี หลังจากสหรัฐฯ ถอนกำลังออกจากฐานทัพอากาศ Clark เมื่อปี 2534 เนื่องจากความเสียหายจากภูเขาไฟ Pinatubo ระเบิด…