The Intelligence Weekly Review (15/10/2023)
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
องค์กรบรรเทาทุกข์และจัดหางานแห่งสหประชาชาติสำหรับผู้ลี้ภัยชาวปาเลสไตน์ในตะวันออกใกล้ (The United Nations Relief and Works Agency for Palestine Refugees in the Near East-UNRWA) ออกแถลงการณ์ เมื่อ 14 ต.ค.66 เรียกร้องให้อิสราเอลปกป้องพลเรือนทุกคนที่หลบภัยอยู่ในสถานที่ของ UNRWA ทั่วฉนวนกาซา รวมถึงพลเรือนในฉนวนกาซาตอนเหนือและเมืองกาซา แม้อิสราเอลมีคำสั่งให้อพยพประชาชนจากตอนเหนือของฉนวนกาซาไปยังตอนใต้ แต่ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ไม่สามารถหลบหนีออกจากพื้นที่ และต้องได้รับการปกป้องตลอดเวลาเฉพาะอย่างยิ่งสตรีมีครรภ์ เด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการ นอกจากนี้ UNRWA ยังเรียกร้องให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามอนุสัญญาว่าด้วยเอกสิทธิ์และความคุ้มกันของสหประชาชาติ ค.ศ. 1946(1946 Convention on the Privileges and Immunities of the United Nations) โดยไม่โจมตีเจ้าหน้าที่ อาคาร และทรัพย์สินของ UN ซึ่งรวมถึง UNRWA ด้วย
เว็บไซต์ CNBC รายงานเมื่อ 11 ต.ค.66 อ้างประมาณการณ์ทางเศรษฐกิจของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund-IMF) เมื่อ ต.ค.66 ว่า เศรษฐกิจอินเดียจะเติบโตร้อยละ 6.3 ในปี 2566 เพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่เติบโตร้อยละ 6.1 และจะเติบโตแข็งแกร่งต่อไปในปี 2566 และปี 2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก การบริโภคภายในประเทศ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนในภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น ประกอบกับการเติบโตของการลงทุนจากต่างประเทศ และประชากรวัยแรงงาน และการขยายตัวอย่างรวดเร็วของชนชั้นกลางรายได้สูง เป็นปัจจัยสนับสนุนเชิงบวกที่จะทำให้อินเดียมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลกภายในปี 2570 ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงที่อาจฉุดรั้งการเติบโตทางเศรษฐกิจอินเดีย ได้แก่ ภาวะเงินเฟ้อ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์จากวิกฤตรัสเซีย-ยูเครน และสถานการณ์การสู้รบระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮะมาส อาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อจากราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากอินเดียนำเข้าน้ำมันมากถึงร้อยละ 80
สำนักข่าว AFP รายงานเมื่อ 14 ต.ค.66 ว่า นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ หารือทางโทรศัพท์กับนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ระหว่างการเยือนซาอุดีอาระเบีย เกี่ยวกับบทบาทของสหรัฐฯ และจีนในการแก้ไขปัญหาอิสราเอล-กลุ่มฮะมาส โดยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ย้ำท่าทีของสหรัฐฯ ที่ประณามการโจมตีอิสราเอลของกลุ่มฮะมาส พร้อมทั้งเรียกร้องจีนให้โน้มน้าวและกดดันอิหร่านไม่ให้สนับสนุนกลุ่มฮะมาสและกลุ่มฮิซบุลลอฮ์ เพื่อป้องกันความขัดแย้งขยายตัวลุกลาม ขณะที่จีนย้ำการต่อต้านความรุนแรงต่อพลเรือน ประณามการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และเรียกร้องสหรัฐฯ ให้ดำเนินบทบาทที่สร้างสรรค์และมีความรับผิดชอบตามแนวทางแก้ปัญหาสองรัฐ (two-state solution) เพื่อยุติความขัดแย้งโดยเร็ว
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เผยแพร่แถลงการณ์ของ พล.อ.ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เมื่อ 14 ต.ค.65 ว่า ได้มีคำสั่งเคลื่อนพลกองเรือบรรทุกอากาศยาน USS Dwight D. Eisenhower รวมถึงเรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธนำวิถี USS Philippine Sea เรือพิฆาตติดขีปนาวุธนำวิถี USS Gravely และ USS Mason และกองบินประจำเรือบรรทุกเครื่องบินที่ 3 ซึ่งประกอบด้วยฝูงบิน 9 ลำ ประจำการบริเวณทะเลเมดิเตอร์เรเนียนตะวันออก เพื่อส่งเสริมมาตรการป้องปรามการกระทำที่เป็นปรปักษ์ต่ออิสราเอล หรือความพยายามใด ๆ ที่อาจขยายขอบเขตของความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-ฮะมาส การเสริมกำลังพลเพิ่มเติมดังกล่าวยังเป็นการส่งสัญญาณที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ ที่จะสนับสนุนอิสราเอลและขัดขวางความพยายามใด ๆ ในการยกระดับการสู้รบ