The Intelligence Weekly Review 08/09/2024
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
The Intelligence Weekly Review นำเสนอความเคลื่อนไหวประเด็นสำคัญที่เกิดขึ้นรอบโลกในแต่ละภูมิภาคให้ท่านผู้ฟังรู้ทันเหตุการณ์ เห็นความสำคัญ และนำมุมมองของเราไปใช้ประโยชน์กันต่อไป
สำนักข่าว Reuters รายงานเมื่อ 6 ก.ย.67 ว่า อิรักและสหรัฐฯ บรรลุแผนการถอนกองกำลังนานาชาติในอิรักที่มีสหรัฐฯ เป็นแกนนำ ซึ่งปัจจุบันมีทหารสหรัฐฯ จำนวน 2,500 นาย และพันธมิตรตะวันตกประเทศอื่น ๆ รวมถึงเยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน และอิตาลี จำนวนรวมกันหลายร้อยนาย ประจำการในฐานทัพหลายแห่งของอิรัก โดยทหารสหรัฐฯ และนานาชาติ จะถอนกำลังออกจากฐานทัพอากาศ Ain Al-Asad ใน จ.อัลอันบาร์ ทางตะวันตกของอิรัก และลดจำนวนกำลังพลประจำการในกรุงแบกแดด ภายใน ก.ย.68 แต่จะคงกำลังบางส่วนไว้ที่เมืองเออร์บิล ของรัฐบาลเขตปกครองตนเองเคอร์ดิสถาน (Kurdistan Regional Government-KRG) ทางภาคเหนือของอิรัก จนถึงช่วงปลายปี 2569 เพื่อสนับสนุนภารกิจต่อต้านกลุ่ม Islamic State (IS) ในซีเรีย ทั้งนี้ การถอนกองกำลังสหรัฐฯ และนานาชาติออกจากอิรักแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงท่าทีทางการทหารของสหรัฐฯ ต่อภูมิภาคตะวันออกกลาง หลังจากสหรัฐฯ มุ่งให้ความสำคัญกับการปราบปรามกลุ่ม IS ที่ขยายตัวในอิรักและซีเรีย ตั้งแต่ปี 2557…
สำนักข่าวสารประเทศลาว รายงานเมื่อ 6 ก.ย.67 ว่า นายปราโบโว ซูเบียนโต ว่าที่ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย นำคณะผู้แทนเยือนลาวอย่างเป็นทางการ ระหว่าง 5-6 ก.ย.67 เพื่อกระชับความร่วมมือ ความสัมพันธ์ทวิภาคี และส่งเสริมความร่วมมือการพัฒนาทั้งในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ รวมถึงกรอบอาเซียน โดยนายปราโบโว ซูเบียนโต มีกำหนดเข้าเยี่ยมคารวะนายทองลุน สีสุลิด ประธานประเทศลาว และนายสอนไซ สีพันดอน นายกรัฐมนตรีลาว ก่อนเข้ารับตำแหน่งผู้นำอินโดนีเซียอย่างเป็นทางการใน 22 ต.ค.67
หนังสือพิมพ์ Khmer Times และ Thmey Thmey รายงานเมื่อ 6 ก.ย.67 อ้างถ้อยแถลงของ พล.ท.Mali Socheata โฆษก กระทรวงกลาโหมกัมพูชา เมื่อ 5 ก.ย.67 คาดว่า จีนจะส่งมอบเรือคอร์เวต ชั้น 056 จำนวน 2 ลำ ให้แก่กัมพูชาภายในปี 2568 ตามกรอบความร่วมมือหกเหลี่ยมระดับเพชร (Diamond Hexagon Cooperation) โดยเรือดังกล่าวจะประจำการที่ฐานทัพเรือเรียม จ.พระสีหนุ การสนับสนุนดังกล่าวจะส่งเสริมการพัฒนาขีดความสามารถทางทหารของกองทัพบกและกองทัพเรือกัมพูชา สำหรับภารกิจรักษาสันติภาพ อธิปไตย และดินแดน ส่งเสริมการปฏิบัติภารกิจด้านมนุษยธรรม และมีศักยภาพทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้าน
The Irrawaddy รายงานเมื่อ 5 ก.ย.67 ว่า กองกำลังผสมกลุ่มต่อต้านชาติพันธุ์คะเรนนี ประกอบด้วย พรรคก้าวหน้าแห่งชาติคะยา (KNPP) กองกำลังป้องกันชนชาติคะยา (KNDF) และกองกำลังป้องกันประชาชน (PDF) พยายามก่อเหตุโจมตีใน จ.ลอยก่อ รัฐคะยา ขณะ พล.อ.อาวุโส มินอองไลง์ ตรวจเยี่ยมพื้นที่ เมื่อ 4 ก.ย.67 และบัญชาการรบที่ศูนย์บัญชาการควบคุมภูมิภาค (Regional Control Command-RCC) ใน จ.ลอยก่อ โดยนาย Marwi รอง ผบ.KNDF ระบุว่า พื้นที่เป้าหมายโจมตีที่สำคัญ ได้แก่ บก.RCC และศาลาว่าการ จ.ลอยก่อ ซึ่งสามารถยิงกระสุนปืนเข้าไปในพื้นที่ บก.RCC และมีเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ (ไม่ทราบจำนวน) อย่างไรก็ตาม พล.อ.อาวุโส มินอองไลง์ ไม่ได้รับผลกระทบ และเดินทางด้วยเฮลิคอปเตอร์จากท่าอากาศยานลอยก่อถึงกรุงเนปยีดออย่างปลอดภัย