ความต้องการในการบริโภคผลผลิตทางการเกษตรที่ปลอดภัย เช่น ผักปลอดสารพิษและผักอินทรีย์ มีมากขึ้น เนื่องจากผู้คนให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพเชิงรุก ขณะที่ในร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และตลาดก็มีผักผลไม้ที่บ่งบอกถึงการเป็นสินค้าอินทรีย์อยู่มากมาย ที่น่าสนใจ คือ ผลผลิตเหล่านี้จะมีราคาสูงกว่าผักผลไม้ทั่วไปอีกด้วย และด้วยองค์ความรู้ในการทำการเกษตร ทำให้พืชผักอินทรีย์มีความสวยงาม ไม่แตกต่างจากที่มีการฉีดพ่นยาฆ่าแมลง หรือพูดกันได้ว่า ผู้บริโภคแทบจะแยกกันไม่ออกว่า อันไหนคือผลผลิตอินทรีย์ หรือผลผลิตทั่วไปที่ปลูกโดยใช้ปุ๋ยเคมี และพ่นยาฆ่าแมลง เพื่อให้ผักดูสวยงาม ดังนั้น ผู้บริโภคจะมั่นใจในผลผลิตทางเกษตรกรรมที่วางอยู่บนชั้นหรือตู้แช่ตามห้างสรรพสินค้าได้อย่างไร!? ….ว่าเป็นผักอินทรีย์ที่ปลอดสารพิษ ไม่ใช่เพียงแค่งดใช้สารเคมีในก่อนการเก็บเกี่ยวไม่นาน หรือมีการใช้สารพิษในปริมาณที่ร่างกายพอรับได้ เพราะสิ่งที่ผู้บริโภคต้องการ หรือมองหา คือ พืชผักและอาหารที่ปราศจากสารเคมีตั้งแต่เมล็ดพันธุ์ กระบวนการเพาะปลูก การเก็บเกี่ยว จนไปถึงการคงสภาพระหว่างการขนส่ง ผักปลอดสารพิษต้องปราศจากสารพิษจริง ๆ ตั้งแต่กระบวนการเริ่มต้นจนออกมาเป็นผลผลิตได้ เพราะฉะนั้น …เพียงแค่ตราประทับ ฉลาก หรือสติกเกอร์ที่แปะไว้บนบรรจุภัณฑ์ จะเพียงพอต่อการสร้างความเชื่อมั่นและการันตีความปลอดภัยของวัตถุดิบเหล่านั้นได้หรือไม่ พฤติกรรมของผู้บริโภคในปัจจุบันยอมเสียค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น เพื่อให้ได้รับประทานอาหารที่ปลอดภัยและดีต่อสุขภาพ แต่ความไว้วางใจผลิตภัณฑ์นั้นกลับไม่สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน ผู้บริโภคต้องการที่จะเข้าถึง “แหล่งข้อมูล” ที่จะสามารถบอกถึงแหล่งที่มาของผลิตภัณฑ์ทุกชนิดที่พวกเขาเลือกซื้อ และนี่คือระบบการตรวจสอบย้อนหลังที่จะช่วยให้สินค้าได้รับการยอมรับมากขึ้นว่าเป็นสินค้าคุณภาพในระดับที่ลูกค้าพึงพอใจ แล้วอะไรที่จะทำให้ผู้บริโภคอย่างเรา ๆ สบาบใจและมั่นใจได้ …..แม้ว่าไม่มีอะไรจะทำให้รู้สึกมั่นใจได้ เท่ากับการปลูกผักที่กินเอง!! แต่ไม่ใช่ทุกคนพร้อมจะปลูกผักไว้รับประทานเอง ดังนั้น ข้อเสนอแนะสำหรับในระบบอุตสาหกรรมการเกษตรที่เป็นการผลิตผลผลิตจำนวนมาก เพื่อป้อนเข้าสู่ตลาดจึงจำเป็นต้องมีการสื่อสารข้อมูลจำนวนมาก เกี่ยวกับกระบวนการผลิตให้ผู้บริโภคตรวจสอบได้…