รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและองค์กรความร่วมมือระหว่างประเทศรวม 22 ชาติ เมื่อ 20 พฤษภาคม 2568 ร่วมกันลงนามในแถลงการณ์คัดค้านอิสราเอลที่ยังขัดขวางการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซา ส่วนแผนการของอิสราเอลที่จะแจกจ่ายความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมในพื้นที่ที่กองทัพอิสราเอลควบคุมเท่านั้น ทำให้นานาชาติวิตกว่าจะไม่สามารถกระจายความช่วยเหลือได้เพียงพอ และเห็นว่าอิสราเอลใช้ความช่วยเหลือจากนานาชาติเป็นข้อต่อรองทางการเมือง พร้อมกันนี้ ทั้ง 22 ประเทศและองค์กรความร่วมมือเรียกร้องให้อิสราเอลยกเลิกแผนการดังกล่าว และให้องค์กรระหว่างประเทศมีบทบาทในการแจกจ่ายความช่วยเหลือแทน ท่าทีของนานาชาติดังกล่าวมีขึ้นก่อนการประชุม European Humanitarian Forum ของสหภาพยุโรประหว่าง 19-20 พฤษภาคม 2568 ที่กรุงบรัสเซลล์ เบลเยียม ซึ่งจะมีประเด็นสถานการณ์ในฉนวนกาซาเป็นหัวข้อหารือสำคัญ ทำให้ปัจจุบันมีหลายประเทศกล่าวถึงสถานการณ์วิกฤตด้านมนุษยธรรมในฉนวนกาซา โดยเฉพาะข้อจำกัดและอุปสรรคที่เกิดจากนโยบายของอิสราเอลที่ปิดกั้นพื้นที่ฉนวนกาซาทั้งหมดตั้งแต่ 2 มีนาคม 2568 มีรายงานว่า ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมากกว่า 116,000 ตันไม่สามารถขนส่งข้ามพรมแดนได้ เพราะกองทัพอิสราเอลสกัดกั้นไว้ ทำให้ชาวปาเลสไตน์มากกว่า 2.1 ล้านคนเสี่ยงเผชิญภาวะไม่มั่นคงทางอาหาร นอกจากนี้ ชาวปาเลสไตน์ในฉนวนกาซาร้อยละ 90 กลายเป็นผู้พลัดถิ่น และหลายครอบครัวต้องอพยพมากกว่า 10 ครั้ง อิสราเอลไม่สนใจข้อเรียกร้องของนานาชาติ รวมทั้งแรงกดดันจากประเทศในยุโรปที่ต้องการให้ยุติสงคราม ผู้นำอิสราเอลยืนยันดำเนินนโยบายจำกัดพื้นที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ควบคู่กับปฏิบัติการโจมตีกองกำลังติดอาวุธในฉนวนกาซาต่อไป ทั้งนี้ สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสและแคนาดาออกแถลงการณ์ร่วมกันถึงอิสราเอลโดยขู่ว่าจะมีมาตรการคว่ำบาตรอิสราเอลหากยังไม่ยุติการโจมตีในพื้นที่พลเรือน…