ทั่วโลกติดตามท่าทีของสหรัฐฯ ในการตัดสินใจโจมตีอิหร่าน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุเมื่อ 20 มิถุนายน 2568 ว่า ยังไม่ตัดสินใจโจมตีอิหร่านและอยู่ระหว่างการพิจารณา โดยอาจใช้เวลา 2 สัปดาห์ เพื่อติดตามพัฒนาการสถานการณ์ต่อไป ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากมีรายงานจากสื่อจำนวนมากว่าประธานาธิบดีทรัมป์ได้อนุมัติแผนการโจมตีอิหร่าน เพียงแค่รอการตัดสินใจเท่านั้น อย่างไรก็ดี นิสัยของประธานาธิบดีทรัมป์ที่อาจปรับนโยบายได้ตลอดเวลา อะไรก็อาจจะเกิดขึ้นได้ การที่ผู้นำสหรัฐฯ ยังคงสงวนท่าทีและชะลอการตัดสินใจ คาดว่าคงไม่ต้องการมีส่วนร่วมในสงครามเต็มรูปแบบเพราะจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองในประเทศ รวมทั้งผลประโยชน์ของสหรัฐฯ ทั่วโลกจะเป็นเป้าหมายการตอบโต้ของอิหร่าน นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังเหมือนกับประชาคมระหว่างประเทศที่ยังต้องการรอเวลาช่องทางทางการทูต ซึ่งนาย Abbas Araghchi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของอิหร่านจะพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจากประเทศยุโรป ได้แก่ ฝรั่งเศส เยอรมนี สหราชอาณาจักร และสหภาพยุโรป ที่เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ใน 20 มิถุนายน 2568 เพื่อหารือประเด็นโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน และสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับอิสราเอลในปัจจุบัน ทั่วโลกคาดหวังว่าประเทศยุโรปจะใช้การหารือครั้งนี้ โน้มน้าวอิหร่านให้ยุติการโจมตีตอบโต้กับอิสราเอล เนื่องจากเป็นปัจจัยบั่นทอนความมั่นคงในภูมิภาค และเชื่อว่าประเทศยุโรปอาจมีศักยภาพในการโน้มน้าวอิหร่านได้ เนื่องจากประเทศยุโรปที่ส่งผู้แทนเจรจากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน เป็นประเทศที่ลงนามในข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่าน หรือ JCPOA เมื่อปี 2558 ที่มีสาระสำคัญคือให้อิหร่านควบคุมการพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ แลกเปลี่ยนกับการทยอยยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ส่วนกลุ่มประเทศรอบอ่าวในตะวันออกกลางก็กำลังพยายามโน้มน้าวให้สหรัฐฯ ไม่โจมตีอิหร่านโดยตรง เพราะหากสหรัฐฯ…