บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอินเดียถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่
บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอินเดีย Tata Technologies Ltd. ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (ransomware) ส่งผลให้ระบบไอทีบางส่วนหยุดชะงัก และยังไม่มีกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้
บริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอินเดีย Tata Technologies Ltd. ถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ (ransomware) ส่งผลให้ระบบไอทีบางส่วนหยุดชะงัก และยังไม่มีกลุ่มแฮ็กเกอร์ที่ออกมารับผิดชอบต่อเหตุการณ์นี้
การเข้ามาของเทคโนโลยีดิจิทัลและอินเทอร์เน็ตได้เปลี่ยนแปลงโลกของเราไปโดยสิ้นเชิงในแทบจะทุกมิติ ถ้าย้อนกลับไปเมื่อสิบปีที่แล้วคงไม่มีใครบอกได้ว่าเราจะทำงานจากร้านกาแฟบนยอดดอยสูง หรือชายหาดบนเกาะในทะเลสักแห่งได้ยังไง แต่ทุกวันนี้มันเกิดขึ้นแล้ว และก็เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย มีกลุ่มคนที่ใช้เทคโนโลยีทำงานอะไรก็ได้จากที่ไหนก็ได้ไม่จำเป็นต้องนั่งจับเจ่าอยู่ที่ออฟฟิศ ขอเพียงเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้เท่านั้น และเราเรียกรูปแบบของการทำงานของคนกลุ่มนี้ว่า ดิจิทัลโนแมด (Digital Nomad) ดิจิทัลโนแมด เป็นรูปแบบที่ได้รับความนิยมมาขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่การเข้ามาของ COVID-19 ที่เราต้องทำงานแบบเว้นระยะ จนเกิดสิ่งที่เรียกว่า Work From Home แล้วลักษณะยังไงที่เราจะเรียกว่าดิจิทัลโนแมด อย่างแรกเลยก็คือต้องทำงานผ่านคอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก มีความยืดหยุ่นในการทำงานสูง เลือกเวลาทำงานและสถานที่ทำงานได้ตามใจต้องการ มีความเชี่ยวชาญในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล และที่สำคัญหลายคนทำงานไปพร้อม ๆ กับใช้ชีวิตแบบเดินทางและท่องเที่ยวไปพร้อม ๆ กันเพื่อให้เกิดประสบการณ์ใหม่ ๆ สร้างมุมมองใหม่ ๆ หรือเรียกได้ว่า Work From Everywhere กันขึ้นมาแล้ว แล้วประเทศไทยของเราเกี่ยวข้องอะไรกับสิ่งที่เรียกว่าดิจิทัลโนแมดนี้ได้บ้าง ก็อย่างที่บอกไปว่าดิจิทัลโนแมดมักเลือกทำงานไปพร้อม ๆ กับท่องเที่ยวหาประสบการณ์ และไทย ก็เป็นหนึ่งในประเทศที่ได้รับความนิยมจากดิจิทัลโนแมดทั้งในไทยและทั่วโลก ด้วยเหตุผลที่ว่าไทยตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานและการท่องเที่ยวของคนกลุ่มนี้มาก ปัจจัยอะไรที่ดึงดูดดิจิทัลโนแมดมาไทย อย่างแรกเลย ค่าครองชีพบ้านเราค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับฝั่งอเมริกา ยุโรป หรือแม้แต่ประเทศในแถบเอเชีย ทำให้ดิจิทัลโนแมดสามารถใช้ชีวิตและทำงานในไทยได้อย่างสะดวกสบาย สถานที่ท่องเที่ยวที่หลากหลาย ร่ำรวยด้วยวัฒนธรรม และอาหารที่รสชาติติดอันดับโลกก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดดิจิทัลโนแมดต่างชาติ…
สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอล เผยแพร่แถลงการณ์เมื่อ 3 ก.พ.68 ตอบโต้กรณีที่สถานีโทรทัศน์ Channel 12 ของอิสราเอลรายงานข่าวว่า นรม.เบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอล จะขอให้ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ โจมตีที่ตั้งโครงการนิวเคลียร์อิหร่าน รวมทั้งจัดทำข้อตกลงสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลกับซาอุดีอาระเบียให้ลุล่วงก่อน อิสราเอลจึงจะยอมบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและแลกเปลี่ยนตัวประกันระยะที่ 2 กับกลุ่มฮะมาส ซึ่งการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวจะส่งผลให้การเจรจากับกลุ่มฮะมาสต้องเลื่อนออกไปอีกหลายเดือน ทั้งนี้ สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวว่า เป็นข้อมูลเท็จโดยสิ้นเชิง และจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวของตัวประกันชาวอิสราเอลอย่างร้ายแรง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ประกาศผ่านทาง Truth social เมื่อ 4 ก.พ.68 ว่า การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาร้อยละ 25 จะชะลอออกไป 30 วันจากเดิมที่จะมีผลบังคับใช้ในวันเดียวกันนี้ เนื่องจากแคนาดาให้คำมั่นจะดำเนินการเสริมประสิทธิภาพความมั่นคงบริเวณพรมแดนแคนาดา-สหรัฐฯ มูลค่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจัดการกับปัญหาการลักลอบค้ายาเฟนทานิลร่วมกับสหรัฐฯ ด้วยการเสริมกำลัง จนท. และใช้เทคโนโลยีตรวจตราพรมแดนตลอด 24 ชม. กับทั้งจัดตั้งกองกำลังร่วมเฉพาะกิจสหรัฐฯ -แคนาดาเพื่อปราบปรามองค์กรอาชญากรรม ค้ายาเสพติด และฟอกเงิน โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งข่าวกรองใหม่เกี่ยวกับอาชญากรรมและเฟนทานิล รวมทั้งให้งบประมาณสนับสนุนอีก 200 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
องค์การสหประชาชาติ (UN) รายงานเมื่อ 3 ก.พ.68 อ้างนาย Fu Cong ผู้แทนถาวรจีนประจำ UN ว่า จีนซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council-UNSC) ประจำ ก.พ.68 จะจัดการประชุมในหัวข้อการรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ: การปฏิบัติตามกลไกพหุภาคี การปฏิรูป และการปรับปรุงธรรมาภิบาลระดับโลก ใน 18 ก.พ.68 โดยมีนายหวัง อี้ รมว.กต.จีนเป็นประธาน โดยสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะยังคงเป็นประเด็นสำคัญในวาระการประชุมของ UNSC ตลอดห้วง ก.พ.68 โดยจะย้ำให้ทุกฝ่ายปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงและการเข้าถึงด้านมนุษยธรรมโดยไม่มีอุปสรรค รวมทั้งสหรัฐฯ และจีนต้องร่วมมือกันในประเด็นระดับโลกมากขึ้น เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการก่อการร้าย ส่วนเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence-AI) การใช้วิธีกีดกันทางเทคโนโลยีจะไม่ได้ผล เห็นได้จากการที่จีนประสบความสำเร็จในการพัฒนา DeepSeek พร้อมกับเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศให้ใช้ประโยชน์จาก AI และมีแนวทางป้องกันการนำไปใช้ในทางที่ผิด
เว็บไซต์ นสพ.Daily Mirror ของศรีลังกา รายงานเมื่อ 3 ก.พ.68 ว่า นาย Vijitha Herath รมว.กต. การจ้างงานต่างประเทศ และการท่องเที่ยวของศรีลังกาหารือทางโทรศัพท์กับอูตานซเว รอง นรม. และ รมว.กต เมียนมา เกี่ยวกับแนวทางแก้ไขปัญหาขบวนการค้ามนุษย์และอาชญากรรมทางไซเบอร์ในเมืองเมียวดี ซึ่งมีชาวศรีลังกาหลายคนถูกหลอกให้เดินทางไปทำงานในพื้นที่ดังกล่าว ศรีลังกาได้ร้องขอความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนจากรัฐบาลเมียนมาในการส่งตัวชาวศรีลังกาที่ตกเป็นเหยื่อ 18 คน กลับประเทศ พร้อมขอบคุณรัฐบาลเมียนมาที่ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด ทั้งนี้ ระหว่างปี 2565-2567 เมียนมาได้ให้ความช่วยเหลือในการส่งตัวชาวศรีลังกาที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการค้ามนุษย์แล้วจำนวน 91 คน กลับประเทศ
นสพ.South China Morning Post รายงานเมื่อ 4 ก.พ.68 ว่า นาง Xu Xueyuan ออท.จีน/กรุงปานามา ซิตี้ แสดงความเห็นผ่านบทบรรณาธิการใน นสพ.La Estrella ของปานามา ว่า การเยือนปานามาของนายมาร์โค รูบิโอ รมว.กต.สหรัฐฯ เสมือนพายุโซนร้อนที่กระทบอำนาจอธิปไตยของปานามา อีกทั้งสหรัฐฯ ยังใช้การทูตแบบกดดันและโกรธแค้นความสัมพันธ์ระหว่างปานามากับจีน โดยนายรูบิโอเรียกร้องให้ปานามารักษาระยะห่างกับจีน ซึ่งส่งผลให้ปานามาประกาศจะไม่ต่ออายุข้อริเริ่มแถบและเส้นทาง (BRI) ทั้งนี้ ออท.จีน ระบุว่า การลงทุนของจีนนำการพัฒนามาสู่ปานามาโดยไม่กระทบต่ออธิปไตยของประเทศ เพราะจีนไม่เคยสร้างความหวาดกลัวแก่ปานามา แต่สร้างความเท่าเทียม การเคารพ และมีผลประโยชน์ร่วมกันทั้งโครงการโครงสร้างพื้นฐานและการเปิดตลาดจีนให้แก่ผลิตภัณฑ์เกษตรจากปานามา
สมาชิกกลุ่มฮะมาสเปิดเผยกับสื่อมวลชนเมื่อ 4 ก.พ.68 ว่า กลุ่มพร้อมเจรจาข้อตกลงหยุดยิงระยะที่ 2 กับอิสราเอล โดยได้แจ้งให้ผู้ประสานงานรับทราบแล้วระหว่างการประชุมที่กรุงไคโร อียิปต์เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นในช่วงที่ข้อตกลงหยุดยิงระยะที่ 1 ดำเนินการมาตั้งแต่ 19 ม.ค.68 และมีความคืบหน้าการแลกเปลี่ยนตัวประกันระหว่างกัน โดยตามข้อตกลงระยะที่ 1 กลุ่มฮะมาสจะต้องปล่อยตัวประกัน 33 คน แลกกับนักโทษปาเลสไตน์กับอิสราเอล และการเปิดพื้นที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม นานาชาติคาดหวังให้มีการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงระยะที่ 2 เพื่อขยายเวลาสันติภาพในภูมิภาคคะวันออกกลาง แต่วิตกว่ารัฐบาลอิสราเอลจะไม่ต่ออายุข้อตกลง เนื่องจากนักการเมืองกลุ่มอนุรักษ์นิยมในอิสราเอลกดดันให้รัฐบาลทำสงครามต่อไปทันที เพื่อกวาดล้างกลุ่มฮะมาสไม่ให้สามารถเป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลได้อีก และหาโอกาสผนวกดินแดนของชาวปาเลสไตน์บางส่วน เพื่อความมั่นคงในระยะยาว นอกจากนี้ กรณีที่ผู้นำอิสราเอลประกาศว่าจะเลื่อนการเจรจาข้อตกลงหยุดยิงระยะที่ 2 ออกไปก่อน ยิ่งทำให้นานาชาติกังวลว่าอิสราเอลจะปฏิบัติการทางทหารในฉนวนกาซาอีกครั้ง
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เมื่อ 3 ก.พ.68 ประกาศชะลอการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโก หลังจากได้โทรศัพท์หารือกับผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ เนื่องจากบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับเม็กซิโกที่จะส่งทหารจำนวน 10,000 คนไปประจำการบริเวณพรมแดนสหรัฐฯ-เม็กซิโก เพื่อเข้มงวดตรวจสอบการลักลอบค้ายาเสพติด ขณะที่แคนาดาจะเพิ่มงบประมาณ พร้อมกับส่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงประมาณ 10,000 นาย ไปประจำการที่ชายแดน เพื่อการยกระดับความมั่นคงชายแดนแคนาดา-สหรัฐฯ และยุติการลักลอบค้ายาเสพติดไปยังสหรัฐฯ ด้วย โดยเฉพาะเฟนทานิล (Fentanyl) สารสังเคราะห์กลุ่มโอปิออยด์ที่มีฤทธิ์บรรเทาปวด และถูกใช้เป็นสารเสพติดผิดกฎหมายที่มีฤทธิ์รุนแรงกว่าเฮโรอีนหลายเท่า กลายเป็นปัญหายาเสพติดที่รุนแรงในสหรัฐฯ
สื่อสหรัฐฯ ให้ความสนใจกรณีนาย Elon Musk ผู้บริหารหน่วยงานปฏิรูปการทำงานของหน่วยงานภาครัฐ (DOGE) เปิดเผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์เมื่อ 3 ก.พ.68 ว่า สหรัฐฯ จะยุติการทำงานของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ หรือ USIAD ที่เป็นหน่วยงานอิสระ ทำหน้าที่ให้ความช่วยเหลือต่างประเทศด้านการพัฒนา สาธารณสุข ประชาธิปไตยและสิ่งแวดล้อม โดยนาย Musk วิจารณ์ว่า USAID ใช้งบประมาณมหาศาล เริ่มจากการประกาศชะลอโครงการความช่วยเหลือในต่างประเทศ (foreign assistance) และให้ กต.สหรัฐฯ ทบทวนโครงการต่าง ๆ หากไม่จำเป็นหรือไม่เป็นประโยชน์ต่อชาวอเมริกัน ก็จะให้ยกเลิก