สหรัฐฯ ซึ่งเป็นประเทศที่ประกาศตนเองว่าเป็นต้นแบบประชาธิปไตยของโลก การเมืองก็มีการสาดโคลนกันไปมาในห้วงก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งดุเดือดดีเหมือนกัน มีการตอบโต้ด้วยวาจากล่าวหากันไปมาระหว่างอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ (พรรครีพับลิกัน) กับรองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส (พรรคเดโมแครต) ในห้วงหาเสียงก่อนการเลือกตั้งทั่วไปของสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นใน 5 พฤศจิกายน 2567 ที่จะรู้ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป ในการหาเสียงในรัฐเพลซิลเวเนีย ซึ่งเป็นรัฐ swing state เมื่อ 24 ตุลาคม 2567 รองประธานาธิบดีแฮร์ริส ได้เรียกอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ว่าเป็น fascist รวมทั้งเป็นผู้นำที่ผูกขาด และไม่เหมาะสมจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ขณะที่อดีตประธานาธิบดีทรัมป์ก็กล่าวหารองประธานาธิบดีแฮร์ริสด้วยถ้อยคำรุนแรง และเป็นในเชิงดูถูก ทั้งด้านไอคิว และความน่าเชื่อถือ หลังจากรองประธานาธิบดีแฮร์ริสประกาศให้นายทิม วอลซ์ ซึ่งเป็นผู้ว่าการมลรัฐมินเนโซตา เป็นคู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ และกล่าวหาซ้ำอีกในการหาเสียงที่มลรัฐจอร์เจีย และเพิ่มเติมว่านางแฮร์ริสจะได้รับความพ่ายแพ้อย่างยับเยิน ยิ่งใกล้วันเลือกตั้ง การสาดโคลนด้วยวาจากันไปมายิ่งมากขึ้นระหว่างคู่ชิงระหว่างพรรคที่มีสัญลักษณ์เป็นลา (พรรคเดโมแครต) กับช้าง (พรรครีพับลิกัน) หรือจะดูกันอีกทีก็เป็นการแข่งขันระหว่างผู้ชายกับผู้หญิง เหมือนกับสมัยของนางฮิลลารี คลินตัน แข่งกับนายทรัมป์ เมื่อปี 2559 ซึ่งในยุคนั้น นางคลินตันมุ่งหาเสียงว่าจะเป็นสตรีคนแรกที่จะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ แต่ก็แพ้นายทรัมป์ สำหรับในการหาเสียงของรองประธานาธิบดีแฮร์ริสครั้งนี้ไม่ได้ชูประเด็นนี้เลย…