ข่าวจำนวนนักท่องเที่ยวจีนในไทยที่ลดลงไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใด…ความกังวลต่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว หรืออาจเป็นกระแสความไม่พอใจของคนจีนอันเนื่องมาจากการวิพากษ์วิจารณ์จีนจากปัญหาทุนสีเทา รวมถึงการมีปลายทางท่องเที่ยวในประเทศอื่น ๆ ให้เลือกอีกหลากหลาย…จนทำให้บรรยากาศการท่องเที่ยวซบเซาและเริ่มส่งผลกระทบต่อธุรกิจอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องของไทย อาจเป็นสิ่งสะท้อนว่า ไทยพึ่งพาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและนักท่องเที่ยวจีนมากเกินไปหรือไม่
แทบจะทุกประเทศยกให้การท่องเที่ยวเป็นแหล่งรายได้แห่งความหวัง โดยมีนักท่องเที่ยวจีนเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก จึงไม่แปลกที่ต่างพยายามจะส่งเสริมการท่องเที่ยวและรักษาตลาดนักท่องเที่ยวจีน เพื่อกระตุ้นรายได้เข้าประเทศท่ามกลางเศรษฐกิจฝืดเคืองและเต็มไปด้วยความผันผวนที่เกิดขึ้น เช่นเดียวกับจีนที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่จีนจะมุ่งส่งเสริมด้วยหวังจะให้เป็นอีกแรงในการสร้างรายได้เข้าประเทศทั้งจากชาวจีนด้วยกันเอง และจากนักท่องเที่ยวต่างชาติ เพื่อเอาตัวรอดจากอุปสรรคการค้าและความปั่นป่วนทางการเมืองระหว่างประเทศ และยิ่งต้องพยายามมากกว่าประเทศอื่น เพื่อลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ พร้อมกับหาโอกาสใหม่มาชดเชยสิ่งที่เสียไป เพราะจีนเป็นเป้าหมายอันดับแรกของสหรัฐฯ ในการสกัดกั้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ดังนั้น….การลงสนามดึงนักท่องเที่ยวของจีนไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวจีนด้วยกันเอง หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติให้ไปเที่ยวจีนจึงน่าหวาดหวั่นไม่น้อยสำหรับประเทศที่พึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยว โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวที่มีชาวจีนเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มหลัก …..
เพื่อให้โดนใจนักท่องเที่ยวชาวจีนและชาวต่างชาติ จีนพยายามนำเสนอการท่องเที่ยวที่แตกต่างจากประเทศอื่น นอกจากมีทิวทัศน์และธรรมชาติที่สวยงามในพื้นที่กว้างใหญ่ วัฒนธรรมหลากหลาย และอาหารที่ชวนให้ลิ้มลองแล้ว ยังใช้จุดเด่นของจีนทั้งนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาเป็นพื้นฐานหรือเครื่องมือในการขับเคลื่อน และผสานเข้ากับวัฒนธรรมที่เป็นจิตวิญญาณของจีน ซึ่งนักท่องเที่ยวต่างชาติรู้จักผ่านผลงานการสร้างสรรค์ของจีนที่นำเสนอออกมาในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เกมออนไลน์ วรรณกรรมออนไลน์ และซีรีส์ เพื่อสร้างมูลค่าทางการตลาด
กิจกรรมเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว จีนก็จัดได้ไม่แพ้ประเทศอื่น ทั้งเทศกาลดนตรี เพื่อเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวหนุ่มสาว หรือกิจกรรมในพื้นที่เกษตรกรรมและเชิงวัฒนธรรม เพื่อเปิดประสบการณ์ตรงให้นักท่องเที่ยวในการเข้าไปมีปฏิสัมพันธ์กับชุมชนคนพื้นถิ่นทั้งวัฒนธรรมและประเพณีที่มีเรื่องเล่า รวมถึงพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวและศูนย์กลางการค้าในเมืองใหญ่ เพื่อยกระดับการเป็นศูนย์กลางการชอปปิ้ง ทั้งเซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง กว่างโจว เทียนจิน และฉงชิ่ง อีกทั้งยังจะจัดการแข่งขันกีฬาและการแสดงระดับโลก และการท่องเที่ยวในรูปแบบอื่น ๆ เช่น การตั้งแคมป์ในรถ (vehicle camping) การท่องเที่ยวทางเรือ และการแข่งรถ เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ให้นักท่องเที่ยว
“China Travel” ยังเป็นแคมเปญของจีนที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่ว่าจะเป็นการขยายการยกเว้นวีซ่า การคืนภาษีให้นักท่องเที่ยว ณ จุดขาย การอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในการขอคืนภาษีขาออกภายใต้โครงการ “one order, one bag” model ที่นำร่องในศูนย์การค้า 3 แห่ง โดยแนบแบบฟอร์มการขอคืนภาษีการซื้อสินค้าและภาษีขาออกไว้ด้วยกันในถุง เพื่ออำนวยความสะดวกและลดเวลาในการตรวจคนเข้าเมือง
สำนักการตรวจคนเข้าเมืองแห่งชาติ (National Immigration Administration) ระบุว่ามีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาในจีนเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 43.1 หรือประมาณ 1.1 ล้านครั้ง ในห้วงวันแรงงานระหว่าง1-5 พฤษภาคม 2568 มีทั้งผู้เข้ามาชมความงามของแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติ หรือสัมผัสความเป็นเมืองและศูนย์กลางธุรกิจสมัยใหม่ ที่น่าสนใจคือ การเข้ามาตามรอยสถานที่ต่าง ๆ ในจีนจากผู้ที่รู้จักจีนผ่านผลิตภัณฑ์ทางวัฒนธรรม และออกสู่สายตาผู้คนในประเทศต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเกม วรรณกรรม หรือซีรีส์ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้กลายเป็นทั้งนักสำรวจและนักเล่าเรื่องผ่านสายตาและมุมมองของตัวเอง เพื่อสื่อสารไปยังคนในแวดวงเดียวกัน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นการเดินทางมาจีน เพื่อเข้ามาสัมผัสประสบการณ์ตรงเช่นเดียวกับพวกเขาผ่านการโพสต์ภาพและคลิปกิจกรรมบนสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ
นักท่องเที่ยวชาวจีนเป็นอีกแรงขับเคลื่อนในการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศด้วยอย่างมากเช่นกัน เมื่อมีเทศกาลวันหยุดยาวไม่ว่าจะเป็นวันตรุษจีน วันแรงงาน หรือวันชาติจีน จะเกิดปรากฏการณ์การเคลื่อนย้ายคนครั้งใหญ่ในจีนที่กลับบ้านเกิดที่อยู่ต่างมณฑลและท่องเที่ยวในประเทศ ซึ่งทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวชาวจีนมีจำนวนมาก กระทรวงวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวจีนระบุว่าเฉพาะช่วงหยุดยาววันแรงงานระหว่าง 1-5 พฤษภาคม 2568 มีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ 314 ล้านครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.4 มีการใช้จ่ายสูงถึง 25,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ยอดค้าปลีกและธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มทั่วประเทศสูงขึ้นตามไปด้วย ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จีนระบุว่า เพิ่มขึ้นร้อยละ 6.3 ส่วนการจองโรงแรมขยายตัวร้อยละ 14.9 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว สำหรับแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีน ได้แก่ เซี่ยงไฮ้ เซิ่นเจิ้น และปักกิ่ง
การตามรอยที่เกิดขึ้น ไม่เพียงสร้างรายได้จำนวนมาก แต่ยังเป็นคลื่นลูกใหม่สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในจีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนรุ่นใหม่ที่จะมีโอกาสรู้จักจีนในเชิงประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมผ่านเนื้อหาจากการท่องเที่ยว การที่การท่องเที่ยวเป็นอีกสนามการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่จีนให้ความสำคัญ ทั้งการตอบรับของนักท่องเที่ยวชาวจีนด้วยกันเองและจากชาวต่างชาติทั้งที่เกิดขึ้นตามความตั้งใจในการส่งเสริมการท่องเที่ยวและจากช่องทางเหนือความคาดหมาย เช่น การเข้ามาตามรอยคอนเทนต์ต่าง ๆ …. จึงเป็นปรากฏการณ์การท่องเที่ยวที่น่าหวาดหวั่นสำหรับประเทศต่าง ๆ ที่ต้องพึ่งพารายได้จากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เฉพาะอย่างยิ่งการดึงดูดนักท่องเที่ยวจากจีนให้ไปท่องเที่ยวประเทสของตน