Emerging Security Challenges หรือความท้าทายความมั่นคงที่เกิดขึ้นใหม่ในโลกยุคปัจจุบัน นับว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา และด้วยความซับซ้อนในตัวภัยคุกคามในตัวของมันเอง อาจกล่าวได้ว่า ยากที่จะมีใคร หรือมหาอำนาจใด หรือหน่วยงานใดจะควบคุม หรือจัดการได้เพียงผู้เดียว ….
ลักษณะของความท้าทายความมั่นคงเกิดใหม่…
ความท้าทายความมั่นคงเกิดใหม่คือ ภัยคุกคามต่อความมั่นคงที่กำลังเกิดขึ้นใหม่ในโลกของเรานี้ และสิ่งนี้ทำให้เกิดความกังวล (great concern) และผลกระทบอันยิ่งใหญ่ (great concern) ต่อประชาคมโลก และไม่มีมหาอำนาจใด หรือประเทศใด ๆ จะสามารถเป็นเจ้าของ หรือคุมความมั่นคงเกิดใหม่ได้อย่างเบ็ดเสร็จ เนื่องจากตัวแสดงในภัยคุกคามต่อความมั่นคง มีความหลากหลาย ทั้งรัฐและไม่ใช่รัฐ ภัยจึงมีลักษณะเฉพาะคือ ไม่ได้เป็นภัยคุกคามที่มีมิติเดียว หากแต่มีความซับซ้อน และเชื่อมโยงกับภัยคุกคามด้วยกันเอง หรือภัยคุกคามอื่นที่อาจเป็นภัยคุกคามรูปแบบเก่า ๆ ก็ได้ รวมทั้งเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และที่สำคัญที่สุด ไม่มีประเทศใดประเทศหนึ่ง หรือหน่วยงานใดเพียงหน่วยงานเดียวจะสามารถลด หรือแก้ไขภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่เกิดใหม่ได้
ตัวอย่างความท้าทาย หรือภัยคุกคามด้านความมั่นคงเกิดใหม่ในบริบทของประเทศไทย เช่น การหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งเชื่อมโยงทั้งการค้ามนุษย์ อาชญากรรมทางเศรษฐกิจ การลักลอบข้ามแดน การทุจริต และมีการใช้เทคโนโลยี อาทิ เครือข่ายสังคมออนไลน์ และคริปโตเคอเรนซีเป็นเครื่องมือ ทำให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง ซึ่งไทยไม่สามารถแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้เพียงประเทศเดียว จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างหน่วยงานด้านความมั่นคงทั้งภูมิภาค
สิ่งท้าทาย หรือภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่เกิดใหม่ที่สำคัญห้วงปี 2567-2568 ที่จะขอนำเสนอในบทความนี้ มี 5 ประเภท ได้แก่ Emerging and Disruptive Technologies (EDTs),Gray Zone Warfare: Escalating Tensions in International Conflicts and Great Powers Competitions,Transnational Threats: Terrorism and Transnational Crimes และ Deglobalization
Emerging and Disruptive Technologies (EDTs)
สิ่งท้าทาย หรือภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่เกิดใหม่จาก EDTs เกิดขึ้นจากการที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างรวดเร็วและรุนแรง และส่งผลต่อสถานการณ์ความมั่นคงในระดับโลก ทั้งในเชิงยุทธศาสตร์ที่ทำให้ประเทศมหาอำนาจต้องแข่งขันเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี เพื่อคุมความได้เปรียบเหนือคู่ขัดแย้ง และใช้ดึงดูดหรือต่อรองกับพันธมิตร ด้านการปฏิบัติ มีการใช้เทคโนโลยี เพื่อการสู้รบและโจมตีมากขึ้น ทั้งในปฏิบัติการทางทหาร และการโจมตีทางไซเบอร์
ตัวอย่างเทคโนโลยี EDTs ที่มีบทบาทสูงและส่งผลต่อโลกความมั่นคง อาทิ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ถูกใช้ในกิจกรรมที่เป็นภัยคุกคาม เฉพาะอย่างยิ่งการผลิตข้อมูลบิดเบือน การโจมตีทางไซเบอร์ทุกรูปแบบมีประสิทธิภาพ รุนแรง และมีปริมาณมากขึ้น ยานพาหนะและอากาศยานไร้คนขับ เปลี่ยนรูปแบบการทำสงคราม โดยถูกนำมาใช้ตั้งแต่ขั้นตอนการค้นหาเป้าหมาย การลาดตระเวน การป้องกัน และการโจมตี ส่วนสื่อสังคมออนไลน์ก็ถูกใช้เป็นเครื่องมือส่งต่อข้อมูลข่าวสารและเชื่อมโยงบุคคลเข้าหากัน ที่สำคัญคือการขยายอิทธิพลจากการสร้างวาทกรรม เพื่อชี้นำความคิดหรือปลุกระดมมวลชน รวมถึงเป็นช่องทางในการกระจายข้อมูลบิดเบือน กลุ่มก่อการร้ายและอาชญากรยังแสวงประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ใช้เงินสกุลดิจิทัลในการฟอกเงิน หรือจัดหาเงินทุน โดยไม่ผ่านระบบธนาคาร ซึ่งยากต่อการตรวจสอบเส้นทางการเงิน
สถานการณ์ภัยคุกคามด้านความมั่นคงที่เกิดใหม่จาก EDTs มีความซับซ้อนมากขึ้น จากการที่ตัวแสดงทั้งที่เป็นรัฐและไม่ใช่รัฐ สามารถเข้าถึง EDTS ที่หลากหลายได้ เพื่อนำไปใช้เพิ่มขีดความสามารถ และประกอบการดำเนินการแบบไม่เปิดเผยตัวตนหรือการใช้ตัวแทน (Proxy)
ความก้าวหน้าของ EDTs ยังทำให้ภัยคุกคามทางไซเบอร์ปรากฏมากขึ้นอย่างเด่นชัด โดยหนึ่งในเป้าหมายโจมตีหลัก คือ ระบบโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ อาทิ ระบบไฟฟ้า ขนส่ง โทรคมนาคม การเงิน เพราะสร้างผลกระทบต่อการดำเนินกิจกรรมของรัฐและประชาชนในวงกว้าง และยังส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อการจัดการภาครัฐในระยะยาว เช่นเดียวกับการโจมตีระบบการเงินออนไลน์และ e-commerce ทั้งในรูปแบบการปลอมแปลงธุรกรรมหรือการโจมตีระบบที่ให้บริการ
สามารติดตามประเภทของ Emerging Security Challenges ต่อในตอนที่ 2 (Gray Zone Warfare: Escalating Tensions in International Conflicts and Great Powers Competitions ,Transnational Threats: Terrorism and Transnational Crimes และ Deglobalization)