สถานการณ์ความมั่นคงในตะวันออกกลางเข้าสู่ภาวะซับซ้อนและตึงเครียดมากขึ้น หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันเมื่อ 21 มิถุนายน 2568 ว่าสหรัฐฯ ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดรุ่น B-2 ปฏิบัติการโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน 3 แห่ง ได้แก่ Fordo, Natanz และ Esfahan ด้วยระเบิด bunker buster อาวุธพิเศษที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงจำนวนมาก ซึ่งโรงงานนิวเคลียร์ Fordo ทางตอนใต้ของกรุงเตหะราน มีความสำคัญอย่างมากต่ออิหร่าน เพราะเป็นโรงงานเสริมสมรรถนะยูเรเนียมขนาดใหญ่ สร้างไว้เมื่อปี 2552 ตั้งอยู่ใต้ดิน และเป็นพื้นที่ลับ ทำให้ที่ผ่านมา อิสราเอลไม่สามารถโจมตีได้ และอิสราเอลกล่าวหาว่าเป็นโรงงานพัฒนานิวเคลียร์เพื่อผลิตอาวุธนิวเคลียร์ ไม่ใช่เชิงสันติตามที่อิหร่านกล่าวอ้าง ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่าปฏิบัติการโจมตีดังกล่าวประสบความสำเร็จ เครื่องบินรบของสหรัฐฯ ทั้งหมดเดินทางกลับฐานทัพอย่างปลอดภัย พร้อมกับระบุว่าอิหร่านต้องพิจารณาเลือกสันติภาพและยุติการพัฒนานิวเคลียร์ ไม่เช่นนั้น สหรัฐฯ อาจโจมตีอีกเพื่อกดดันให้อิหร่านเลือกแนวทางสันติภาพ กรณีประธานาธิบดีทรัมป์ตัดสินใจโจมตีอิหร่านครั้งนี้ ตอกย้ำว่าผู้นำสหรัฐฯ ต้องการกดดันอิหร่านให้ยุติโครงการพัฒนานิวเคลียร์ ซึ่งเป็นประเด็นหาเสียงก่อนชนะการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ยังแสดงแสนยานุภาพทางการทหารของสหรัฐฯ ที่สามารถโจมตีโรงงานลับใต้ดินได้ และยืนยันความใกล้ชิดด้านความมั่นคงและยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ กับอิสราเอล อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์ชี้แจงว่าปฏิบัติการของสหรัฐฯ…