ไม่ว่าจะเติบโตก้าวหน้าไปขนาดไหน หรือใครจะมองเป็นภัยคุกคาม จีนยังคงให้ความสำคัญกับการรักษาความสัมพันธ์อันดีกับประเทศรอบบ้าน และที่ไม่เคยลืมคือ เอเชียกลาง เพื่อนบ้านที่แทบไม่ปรากฏว่ามีปัญหากับจีน และดูจะเป็นข่าวน้อยกว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นประเทศเพื่อนบ้านอีกฝั่งที่มีความเคลื่อนไหวในแวดวงระหว่างประเทศบ่อยครั้ง ทั้งปัญหาทะเลจีนใต้ หรือความใกล้ชิดกับสหรัฐฯ
ผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนเยือนภูมิภาคเอเชียกลางต่อเนื่อง หรือแม้แต่การเลือกที่จะประกาศยุทธศาสตร์ One Belt One Road (OBOR) ชื่อเดิมของ Belt & Road Initiative (BRI) ที่เป็นการสร้างโครงข่ายถนนและเส้นทางรถไฟเชื่อมจีนกับยุโรปผ่านเอเชียกลาง ในระหว่างการเยือนคาซัคสถานของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง เมื่อกันยายน 2556 ก่อนที่จะประกาศแผนการสร้างเส้นทางสายไหมทางทะเล (Maritime Silk Road-MSR) ที่เชื่อมท่าเรือจีนกับท่าเรือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และยุโรป ในระหว่างการเยือนอินโดนีเซียของผู้นำจีนเมื่อตุลาคมของปีเดียวกัน
จีนมีความร่วมมือกับห้าประเทศในเอเชียกลางคือ คาซัคสถาน คีร์กีซlสถาน เติร์กเมนิสถาน อุซเบกิซสถาน และทาจิสถาน ที่มีจุดแข็งคือ ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ในจุดศูนย์กลางเชื่อมต่อเอเชีย ยุโรป ตะวันออกกลาง และเอเชียใต้ อีกทั้งเป็นแหล่งทรัพยากรสำคัญคือ ก๊าซธรรมชาติและแร่ธาตุหลายชนิด นอกจากนี้ยังอยู่ติดกับเขตปกครองตนเองซินเจียง ที่เป็นหนึ่งในผลประโยชน์หลัก (Core Interests) ของจีน ซึ่งจะว่าไปก็เป็นจุดแข็งที่ไม่ต่างกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีที่ตั้งทางภูมิศาสตร์เชื่อมต่อมหาสมุทรอินเดียกับมหาสมุทรแปซิฟิก มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทั้งป่าไม้ แร่ธาตุ น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ กับทั้งเป็นประตูออกสู่ทะเลของจีนจากการมีพื้นที่ติดต่อกับจีนที่มณฑลยูนนานและเขตปกครองตนเองกว่างซีจ้วง
ด้วยเหตุนี้ …..จีนจึงให้ความสำคัญกับการสานสัมพันธ์และขยายความร่วมมือกับเพื่อนบ้านทั้งสองฝั่ง คือทั้งเอเชียกลาง และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ต้องการอาศัยความร่วมมือกับจีนเพื่อพัฒนาประเทศ พร้อมกับใช้นโยบายสร้างสมดุลความสัมพันธ์กับจีนและกับประเทศใหญ่อื่น ๆ ไม่ต่างกัน
ภูมิภาคเอเชียกลาง ….การลงนามในสนธิสัญญาการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีถาวร มิตรภาพ และความร่วมมือ (Treaty on Eternal Good-Neighborliness, Friendship and Cooperation) กับภูมิภาคเอเชียกลางถือเป็นอีกก้าวของการเสริมสร้างความเชื่อมั่นซึ่งกันและกันและความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ กับทั้งเห็นพ้องจะผลักดัน China–Central Asia Spirit ต่อเนื่องจากการประชุมสุดยอดครั้งแรกเมื่อปี 2566 ระหว่างจีนกับห้าประเทศในเอเชียกลาง ในระหว่างการประชุมสุดยอดจีน-เอเชียกลางครั้งที่ 2 ที่อัสตานา คาซัคสถาน เมื่อมิถุนายน 2568 ความเคลื่อนไหวดังกล่าว สะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับความร่วมมือและเสริมสร้างความสัมพันธ์กับห้าประเทศในเอเชียกลางของจีนอย่างต่อเนื่อง พร้อม ๆ กับอิทธิพลของจีนในเอเชียกลางที่เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ ขณะที่อิทธิพลของรัสเซีย ที่เคยมีอยู่ตั้งแต่ยุคอดีตสหภาพโซเวียตดูจะจางลง ด้วยหลาย ๆ เหตุผลทั้งการสู้รบติดพันกับยูเครน ที่ทำให้รัสเซียไม่อาจเป็นที่พึ่งได้มากนัก หรือความกังวลปัญหาการก่อการร้ายจากชาวเอเชียกลางของรัสเซีย
ท่าทีของประเทศในเอเชียกลาง….
ประเทศในเอเชียกลางและจีนต่างระมัดระวังในการเดินหน้ากระชับความสัมพันธ์ เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์กับประเทศใหญ่อื่น ๆ โดยประเทศในเอเชียกลางใช้การทูตหลายหน้า (multi-vector diplomacy) เพื่อสร้างสมดุลในการพัฒนาความสัมพันธ์และขยายความร่วมมือกับประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นรัสเซีย พี่ใหญ่ที่ผูกพันกันมานานทั้งการเมือง ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เชื้อชาติ และวิธีคิด ตะวันออกกลาง เอเชียใต้ ยุโรป รวมถึงสหรัฐฯ ที่ก็ต้องการขยายการเคลื่อนไหวเข้ามาในเอเชียกลาง
ขณะที่จีนมีศักยภาพทางเศรษฐกิจเป็นแต้มต่อในการขยายความร่วมมือผ่านโครงการลงทุนต่าง ๆ เฉพาะอย่างยิ่งโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ การให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนา กับทั้งใช้ประโยชน์จากความใกล้ชิดด้านวัฒนธรรมระหว่างชาวเอเชียกลางกับชาวอุยกูร์ในซินเจียงในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ในระดับประชาชน แต่ดูเหมือนว่า จีนพยายามรักษาระดับอิทธิพล เพื่อไม่ให้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับรัสเซีย ที่นับวันจะยิ่งแน่นแฟ้นขึ้น โดยไม่มีข้อจำกัดดังที่ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง และประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวถึงความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งเมื่อปี 2565 ว่าเป็นมิตรภาพที่ไม่มีข้อจำกัด (no-limits friendship)
จีนกับเอเชียกลาง และจีนกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้…..
เอเชียกลางและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ต่างก็เป็นเพื่อนบ้านที่มีความสำคัญต่อจีน ไม่ด้อยไปกว่ากันทั้งความสัมพันธ์ในระดับทวิภาคีและพหุภาคีในมิติการเมือง เศรษฐกิจ และความมั่นคง ขณะที่จีนมีสนธิสัญญาการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีถาวร มิตรภาพ และความร่วมมือกับเอเชียกลาง จีนก็มีสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation in Southeast Asia – TAC) กับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กับทั้งใช้นโยบายการเป็นเพื่อนบ้านที่ดีเหมือน ๆ กัน ที่ต่างกันก็คือ เอเชียกลางไม่มีความขัดแย้งกับจีนจนทำให้เกิดปัญหาความสัมพันธ์ไม่ราบรื่น เช่นเดียวกับที่จีนมีความไม่ลงรอยกับหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากกรณีพิพาททะเลจีนใต้ รวมทั้งมีความหวาดระแวงการขยายอิทธิพลทางการเมือง การทหาร เศรษฐกิจ และความมั่นคงในภูมิภาคของจีน การเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับสหรัฐฯ ของหลายประเทศ และความต้องการการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ในการต่อต้านจีน
ดูเหมือนว่าเอเชียกลางจะประสบปัญหาและความยุ่งยากในการสร้างสมดุลในการดำเนินความสัมพันธ์กับจีนน้อยกว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่อยู่ในภาวะยากลำบากจากการดำเนินนโยบายเชิงรุกอย่างเข้มข้นและดูจะมีการกดดันให้เลือกข้างในบางครั้งจากทั้งจีนและสหรัฐฯ ดังนั้น จึงอาจกล่าวว่า เอเชียกลางน่าจะเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นความสบายใจให้จีนและไม่เคยที่จีนจะละเลยความสำคัญ แม้จะไม่มีสีสันเท่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้