กรณีอิสราเอลโจมตีผู้นำของกลุ่มฮะมาส ระหว่างเดินทางในกรุงโดฮา กาตาร์เมื่อ 9 กันยายน 2568 พร้อมกับการที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลประกาศเมื่อ 10 กันยายน 2568 ขู่ว่าพร้อมจะปฏิบัติการโจมตีและทำลายเป้าหมายที่เป็นภัยคุกคามของอิสราเอลในต่างประเทศ เสี่ยงทำให้ความตึงเครียดและความขัดแย้งในภูมิภาคตะวันออกกลางเพิ่มขึ้น เนื่องจากท่าทีของผู้นำอิสราเอลเป็นสัญญาณว่าจะไม่ยับยั้งการปราบปรามกลุ่มฮะมาส ไม่ว่าจะอยู่ในฉนวนกาซาหรือในประเทศอื่น ๆ เนื่องจากอิสราเอลเตือนแล้วว่ากลุ่มฮะมาสเป็นผู้ก่อการร้ายที่อันตรายต่อความมั่นคงของชาติ ด้านกาตาร์ไม่พอใจท่าทีดังกล่าวอย่างมาก จึงมีถ้อยแถลงประณามอิสราเอล พร้อมทั้งเรียกร้องเมื่อ 11 กันยายน 2568 ให้กลุ่มประเทศอาหรับในภูมิภาคตะวันออกกลางแสดงท่าทีร่วมกันเพื่อปกป้องความมั่นคงและความปลอดภัย
กาตาร์ยืนยันว่าเป้าหมายในการให้ผู้นำกลุ่มฮะมาสเดินทางในประเทศ เป็นไปเพื่อให้เกิดการเจรจายุติความรุนแรงและสงคราม รวมทั้งโน้มน้าวให้กลุ่มฮะมาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล ไม่ใช่การปล่อยให้กลุ่มฮะมาสเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีผลประโยชน์ของอิสราเอล พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกาตาร์ประเมินว่าการโจมตีของอิสราเอลในพื้นที่อื่น ๆ จะยิ่งเป็นผลเสียต่อประเทศ เนื่องจากเสี่ยงเผชิญการคว่ำบาตรและถูกโดดเดี่ยวจากประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคตะวันออกกลาง เพราะส่วนใหญ่ต้องการยุติสงครามและป้องกันไม่ให้ความขัดแย้งขยายตัว แต่อิสราเอลกลับปฏิบัติการโจมตีในหลายประเทศ ทั้งกาตาร์ เลบานอน เยเมน ซีเรีย ตูนีเซีย รวมทั้งฉนวนกาซา สร้างความเสียหายและทำให้พลเรือนเสียชีวิต ตลอดจนเข้าข่ายละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ
นายกรัฐมนตรีกาตาร์ Sheikh Mohammed bin Abdulrahman bin Jassim Al Thani ระบุว่าการกระทำของอิสราเอลเป็นการก่อการร้าย และผู้นำอิสราเอลต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้นทั้งหมด ด้านผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศในกลุ่มอาหรับ เดินทางเยือนกาตาร์เพื่อแสดงการสนับสนุนและหารือแนวทางตอบโต้อิสราเอล รวมทั้งแนวทางการลดระดับความตึงเครียดในภูมิภาค โดยมีรายงานว่าจะจัดการประชุมสุดยอด Arab-Islamic ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อกำหนดท่าทีร่วมกันเกี่ยวกับสถานการณ์ และการส่งสัญญาณให้อิสราเอลยุติการใช้ปฏิบัติการทหารในพื้นที่อื่น ๆ
กาตาร์มีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้ประสานงานให้เกิดการเจรจาระหว่างอิสราเอลกับกลุ่มฮะมาส โดยมีสหรัฐฯ สนับสนุน แม้ว่าจะยังไม่มีสัญญาณว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะยอมหยุดยิงถาวร แต่กาตาร์มีผลงานสำคัญคือการเจรจาแลกเปลี่ยนตัวประกัน ผู้เชี่ยวชาญคาดว่ากาตาร์จะมีแนวทางตอบโต้อิสราเอลได้หลากหลาย ทั้งการยุติบทบาทผู้ประสานงานการเจรจา การคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ และการเรียกร้องให้นานาชาติยกระดับการคว่ำบาตรอิสราเอล หลังจากการประชุม UNSC วาระฉุกเฉินที่จะมีขึ้นใน 11 กันยายน 2568