เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ถูกสหรัฐฯ มองว่าเป็นศูนย์กลางการหลอกลวงทางไซเบอร์ (scam centers) ขนาดใหญ่ เฉพาะอย่างยิ่งในกัมพูชาและเมียนมาที่มีเครือข่ายขนาดใหญ่ เครือข่ายดังกล่าวได้หลอกลวงเงินชาวอเมริกันไปแล้วหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ด้วยการมีการบังคับใช้แรงงาน รวมทั้งความรุนแรงต่อแรงงาน ทำให้สหรัฐฯ มีมาตรการคว่ำบาตรเครือข่าย scammer ในกัมพูชาและเมียนมา
สำนักงานควบคุมทรัพย์สินต่างประเทศ (OFAC) กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศเมื่อ 8 กันยายน 2568 ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อเครือข่ายศูนย์กลางการหลอกลวงทางไซเบอร์ขนาดใหญ่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในกัมพูชามี 10 เครือข่าย และในเมียนมามี 9 เครือข่าย โดยในเมียนมา สหรัฐฯ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับศูนย์กลางกิจกรรม scammer เช่น ในเมืองส่วยโก๊กโก่ (Shwe Kokko) เมียวดี เป็นแหล่งลงทุนของ Karen National Army (KNA) และกลุ่ม Yatai International Holding Group
เมือง Yatai New City เป็นศูนย์กลาง scammer ขนาดใหญ่ มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว จนกลายเป็นทำธุรกิจผิดกฎหมาย ทั้งค้ามนุษย์ ประเวณี การหลอกลวงนักท่องเที่ยว เฉพาะอย่างยิ่งชาวอเมริกัน นอกจากนี้ ยังมีเครือข่ายย่อยหลายเครือข่าย รวมทั้งยังมีแผนผังเครือข่ายขนาดใหญ่ของนายเสอ จื้อเจียง ซึ่งถูกจับในไทยเมื่อปี 2565 (มีภาพเครือข่าย)
รายชื่อบุคคล และบริษัทที่ OFAC คว่ำบาตร เช่น Tin Win, Saw Min Min Oo บริษัท Chit Linn Myaing Co บริษัท Chit Linn Myaing Toyota Company Limited บริษัท Chit Linn Myaing Mining & Industry บริษัท Shwe Myint Thaung Yinn Industry & Manufacturing Company Limited บริษัท She Zhijiang, Yatai International Holdings Group Limited และบริษัท Myanmar Yatai International Holding Group Co., Ltd เป็นต้น
ในกัมพูชาก็มีเครือข่าย scammer ขนาดใหญ่ โดย scam centers ดำเนินการโดยกลุ่มจีนเทา ส่วนใหญ่อยู่ในคาสิโน เช่น T C Capital Co. Ltd. (T C Capital) ในสีหนุวิลล์ โดยคาสิโนที่เชื่อมโยงกับ scammer มีการดำเนินธุรกิจผิดกฎหมายด้วย เช่น การฟอกเงิน และการค้ามนุษย์ เช่น Golden Sun Sky Casino and Hotel สำหรับรายชื่อบุคคล และบริษัทที่ OFAC คว่ำบาตร เช่น K B Hotel Co. Ltd. , Heng He Bavet, M D S Heng He, Dong, Xu, Chen และ Su เป็นต้น
ตามรายงานของ OFAC ระบุว่า กลุ่มผู้ว่างงานมักถูก scammer ล่อลวงไปยังค่ายแรงงานด้วยข้อมูลเท็จ จากนั้นจะใช้หนี้สินเป็นตัวบังคับให้ทำงานต่อไป รวมถึงการใช้ความรุนแรง หรือการข่มขู่ให้ค้าประเวณี พร้อมทั้งบังคับให้แรงงานหลอกลวงผู้อื่นในโลกออนไลน์ ผ่านการส่งข้อความในแอปพลิเคชันหรือโทรศัพท์ของเหยื่อ รวมไปถึงการชักจูงให้บอกข้อมูลการทำธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และการติดตั้งซอฟต์แวร์เถื่อนจากระยะไกล
นอกจากนี้ ยังมีการใช้วิธีหลอกให้หลงรัก หรือสร้างมิตรภาพ (romance scam) เพื่อให้เหยื่อไว้วางใจ ให้มีการลงทุนในเรื่องค่าเงินทางเว็บไซต์ เพื่อจะแสดงให้เห็นว่ามีความโปร่งใส แต่ก็จะถูกขโมยเงิน เพราะเข้าไปลงทุนในแพลตฟอร์มที่ scammer เป็นเจ้าของ พวก scam operators มีทักษะภาษาอังกฤษ และมีโควตาในการชักชวนชาวอเมริกันในแต่ละวัน
เครือข่าย scammer ในเมียนมาของนายเสอ จื้อเจียง