รัฐบาลลาวมุ่งพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานลมเพื่อตอบสนองยุทธศาสตร์การเป็นประเทศผู้ส่งออกไฟฟ้าของภูมิภาค (Battery of Asia) ล่าสุดประกาศว่าการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “Savan 1” ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองพินและเมืองหนอง แขวงสะหวันนะเขต (ตรงข้ามจังหวัดมุกดาหาร) คืบหน้าไปมาก โดยมีเป้าหมายส่งออกไฟฟ้าไปยังเวียดนาม ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้า Savan 1 ดำเนินการโดยบริษัท Savan 1 Wind Power Sole จำกัดซึ่งเป็นบริษัทในเครือ T&T Group ของเวียดนาม เงินลงทุน 768 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งรัฐบาลลาวอนุมัติการก่อสร้างเมื่อ กันยายน 2567
โรงไฟฟ้าพลังงานลม Savan 1 มีกำลังผลิตติดตั้งรวมทั้งสิ้น 495 เมกกะวัตต์ แบ่งการก่อสร้างและดำเนินการเป็น 2 ระยะ ระยะที่ 1 กำลังผลิตติดตั้ง 300 เมกะวัตต์ ประกอบด้วย กังหันลม 48 ต้น แต่ละต้นสูง 130 เมตร และใบพัดยาว 83 เมตร ซึ่งล่าสุดติดตั้งกังหันลมไปแล้ว 23 ต้น พร้อมทั้งก่อสร้างถนนทางเข้า และพัฒนาสายส่งกระแสไฟฟ้าแล้ว 220 กิโลโวลต์ (kV) ส่วนกิจกรรมในปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่การสร้างฐานรากกังหัน การติดตั้ง สถานีไฟฟ้าย่อย 220 kV สายส่ง 35 kV และสิ่งอำนวยความสะดวกถาวร ทั้งนี้ ระยะที่ 1 ลงทุน 490 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีสัญญาส่งออกไฟฟ้าให้เวียดนาม 25 ปี สำหรับ ระยะที่ 2 กำลังผลิตติดตั้ง 195 เมกะวัตต์ และมีการเพิ่มกังหันลมอีก 32 ต้น โดยคาดว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในปี 2570
แขวงสะหวันนะเขตยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่อีกแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่เมืองหนอง เป็นโครงการที่รัฐบาลลาวลงนามข้อตกลงกับบริษัท Chitchareune Construction เมื่อกุมภาพันธ์ 2568 เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 1,200 เมกะวัตต์ ซึ่งมีเป้าหมายจะส่งออกพลังงานไฟฟ้าไปเวียดนามเช่นเดียวกัน โดยคาดว่าจะส่งออกไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ ระยะที่ 1 ในปลายปี 2570 และระยะที่ 2 ในปี 2573 โดยลงทุนรวมอยู่ที่ประมาณ 1,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจุบันเสร็จสิ้นกระบวนการศึกษาความเป็นไปได้ และเตรียมลงนามสัญญาสัมปทานในปี 2569
เมื่อปลายสิงหาคม 2568 ลาวเปิดตัวโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาค คือ โครงการ Monsoon Wind Power Project แขวงอัตตะปือ (ติดเวียดนาม) มีกำลังผลิตติดตั้ง 600 เมกะวัตต์ มุ่งเน้นการส่งออกไปยังเวียดนามเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ ห้วงที่ผ่านมารัฐบาลลาวให้ความสำคัญกับโรงไฟฟ้าพลังงานลมให้เป็นผู้เล่นหลักในตลาดพลังงานหมุนเวียนมากยิ่งขึ้นส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการลดการพึ่งพาการผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำ (สัดส่วนร้อยละ 70 ของการผลิตไฟฟ้าทั้งประเทศ) เป็นการลดความเสี่ยงในห้วงฤดูแล้ง พลังงานลมจึงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญ โดยใช้จุดแข็งทางภูมิศาสตร์เพื่อผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมเพื่อการส่งออกของลาว ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างรายได้มหาศาล แต่ยังช่วยสร้างความมั่นคงทางพลังงานและส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนอีกด้วย
ลาวมีเป้าหมายที่จะเป็นศูนย์กลางพลังงานหมุนเวียน โดยการพัฒนาโครงการกังหันลมขนาดใหญ่เพื่อส่งออกพลังงานสะอาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะเวียดนามและจีน ซึ่งกลยุทธ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์การเติบโตสีเขียวแห่งชาติของลาว (National Green Growth Strategy) ซึ่งมีเป้าหมายในการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาเศรษฐกิจกับการรักษาสิ่งแวดล้อม โดยเน้นการพัฒนาพลังงานที่ยั่งยืน การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ และการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยรวมแล้ว ยุทธศาสตร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อลดการทำลายสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ยังคงขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนในระยะยาวทั้งด้านความมั่นคงทางพลังงานและส่งเสริมความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชาวลาว