![]()
Scam หรือการหลอกลวง มีหลากหลายรูปแบบ และหลายวิธี การหลอกลวงทางออนไลน์ที่เติบโตตามการใช้เทคโนโลยีของประชาชน ก็เป็นการหลอกลวงประเภทหนึ่งที่ทำให้กลุ่มหลอกลวง หรือนักหลอกลวง (scammer) ขยายตัวอย่างรวดเร็ว และมีทั่วทุกหนทุกแห่ง เทคโนโลยียังทำให้การหลอกลวงทางออนไลน์ทำได้โดยสะดวก ง่าย และเข้าถึงทุกระดับ เป้าหมายของ scammer ไม่ได้หลอกลวง เพื่อหารายได้เพียงอย่างเดียว แต่มีการก่ออาชญากรรมควบคู่กันไปด้วย เช่น การค้ามนุษย์ การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย การทรมาน การบังคับใช้เป็นทาส และร้ายแรงที่สุดก็นำไปสู่การสูญเสียชีวิต เป็นต้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
รายงาน Global State of Scams 2024 ของ Global Anti-Scam Alliance ประเมินว่าความเสียหายจากการถูก Scam มีมูลค่าประมาณ 1.03 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ในห้วง 12 เดือนที่ผ่านมา (เมื่อปี 2544 ประมาณ 46.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยเหยื่อที่ได้เงินคืนมีเพียง ร้อยละ 4 และยังมีตัวเลขที่ผู้บริโภคสูญเสียที่ไม่เปิดเผยอีกมาก เนื่องจากผู้ถูกล่อลวงประมาณ ร้อยละ 70 ไม่ได้แจ้งความเสียหาย นอกจากนี้ Global State of Scams 2025 ที่เผยแพร่เมื่อต้นตุลาคม 2568 ระบุว่า คนวัยหนุ่มสาวทั่วโลกร้อยละ 57 เคยถูกหลอกลวง และร้อยละ 23 เคยสูญเสียเงิน โดยถูกหลอกลวงจากการซื้อของ (shopping scam) มากที่สุด
รูปแบบของการหลอกลวงที่ scammer ใช้มีหลายหลาก และมีแบบใหม่ ๆ ตามเทคโนโลยี และสถานการณ์ โดย ที่พบกันบ่อย ๆ เช่น หลอกให้หลงรัก (romance scam) หลอกลวงทางอีเมล (phishing scam) และหลอกให้ลงทุน (investment scam) เช่น ในคริปโตเคอเรนซี เป็นต้น ส่วนวิธีที่ scammer หลอกลวงเหยื่อนั้น ทำได้หลายช่องทาง เช่น การใช้โซเชียลมีเดีย (เฉพาะอย่างยิ่งการส่งข้อความสั้น) การใช้เว็บไซต์ แอปพลิเคชัน การใช้โทรศัพท์ การใช้อีเมล และการโฆษณาทางออนไลน์ เป็นต้น
ในเวทีระหว่างประเทศ หน่วยงาน หรือองค์การระหว่างประเทศยังไม่มีการจัดอันดับเกี่ยวกับการหลอกลวง หรือ scam index โดยตรง แต่เว็บไซต์ sumsub.com ได้จัดทำดัชนีเกี่ยวกับการฉ้อโกงที่น่าสนใจ ชื่อ Global Fraud Index 2025 โดยจากการสำรวจมากกว่า 100 ประเทศ พบว่าประเทศที่มีการปกป้องกลโกงมากที่สุด 5 ประเทศ ได้แก่ ลักเซมเบอร์ก เดนมาร์ก ฟินแลนด์ นอร์เวย์ และเนเธอร์แลนด์ ส่วนไทยอยู่อันดับที่ 42 ประเทศที่มีการปกป้องกลโกงน้อยที่สุด 5 อันดับ ได้แก่ ปากีสถาน อินโดนีเซีย ไนจีเรีย อินเดีย และแทนซาเนีย
เว็บไซต์ explodingtopics.com เมื่อมิถุนายน 2568 รายงานว่า ในแต่ละปี จำนวนเหยื่อที่ถูก scammer หลอกลวงทั่วโลกมีประมาณ 608 ล้านคน หรือเฉลี่ยวันละ ประมาณ 1.67 ล้านคน โดยเหยื่อส่วนใหญ่ถูกหลอกทางโทรศัพท์ และระบบข้อความสั้น รองลงมาคือทางอีเมล นอกจากนั้น ยังมีการถูกหลอกทางโฆษณาดิจิทัล และน้อยที่สุดคือ การถูกหลอกจากบุคคลโดยตรง
แนวโน้มการหลอกลวงของกลุ่ม scammer นักวิเคราะห์เห็นตรงกันว่า แม้จะมีการกวาดล้างกันอย่างต่อเนื่อง แต่จะยังมีผู้ตกเป็นเหยื่อมากขึ้น ตามการเติบโตของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต และความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ที่ทำให้การหลอกลวงทางออนไลน์ทำได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การที่ scammer นำการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence-AI) เข้ามาเป็นส่วนร่วมในการหลอกลวง ส่งผลให้จำนวนของเหยื่อที่ถูกหลอกลวงมีแนวโน้มสูง และวิธีการหลอกลวงซับซ้อนมากขึ้น รายงาน Global State of Scam 2025 ระบุว่าการหลอกลวง หรือ scam เป็นอาชญากรรมที่เชื่อมโยงกับหลาย ๆ อาชญากรรม และเป็นภัยคุกคามต่อโลก เนื่องจากส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของผู้บริโภค เสถียรภาพทางการเงิน ความไว้เนื้อเชื่อใจต่อระบบเศรษฐกิจดิจิทัล และความมั่นคงของมนุษย์ (human security) นอกจากนี้ ยังเชื่อมโยงกับอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับการล่อลวงทางการเงิน และสกุลเงินคริปโตเคอร์เรนซี การค้ามนุษย์ การค้าสิ่งของผิดกฎหมาย และการบังคับใช้แรงงาน เป็นต้น
ติดตาม EP:2 สแกมเมอร์ในสหรัฐฯ และแนวทางลดความเสี่ยงจาก FBI








