สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนยังตึงเครียดและมีแนวโน้มที่ทั้ง 2 ฝ่ายจะปฏิบัติการทางทหารโจมตีกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อช่วงชิงความได้เปรียบในสมรภูมิช่วงฤดูหนาว โดยไม่มีสัญญาณการเจรจาสันติภาพ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเปิดเผย เมื่อ 10 พฤศจิกายน 2568 ว่า ยูเครนยิงขีปนาวุธโจมตีโรงงานควบคุมพลังงานในเมือง Belgorod บริเวณพรมแดนทางภาคตะวันตกของรัสเซีย ทำให้ได้รับความเสียหายอย่างมาก และส่งผลกระทบต่อการกระจายพลังงานในพื้นที่เมือง Belgorod และเมืองใกล้เคียง ซึ่งมีประชากรอาศัยอยู่ประมาณ 20,000 ครัวเรือน รัสเซียยังตรวจจับได้ว่ายูเครนพยายามใช้โดรนจำนวนมาก เพื่อก่อเหตุวินาศกรรมต่อโรงงานควบคุมพลังงานในพื้นที่เมือง Voronezh ทางตะวันตกของรัสเซียเช่นกัน ปฏิบัติการดังกล่าวสะท้อนว่า ยุทธวิธีของยูเครนในปัจจุบันให้ความสำคัญกับการทำลายเป้าหมายด้านพลังงานในรัสเซีย เพื่อตอบโต้และกดดันรัสเซียให้เข้าสู่การเจรจา รัสเซียใช้ยุทธวิธีเดียวกันในการกดดันยูเครน โดยมีรายงานว่ารัสเซียใช้โดรนและขีปนาวุธมุ่งโจมตีโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ในยูเครน แม้ว่าจะยังไม่สามารถทำลายโรงงานดังกล่าวได้ แต่มีผู้เสียชีวิตจากการโจมตีอย่างน้อย 7 ราย ก่อนหน้านี้ เมื่อ 9 พฤศจิกายน 2568 มีรายงานว่ายูเครนเผชิญปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าและพลังงานในพื้นที่เมือง Kharkiv ทางตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เป็นผลจากการโจมตีของรัสเซีย ทำให้ประชาชนมากกว่า 100,000 คนไม่มีไฟฟ้าและพลังงานใช้ ด้านบริษัทพลังงาน Tsentrenergo ของยูเครนเปิดเผยว่ารัสเซียโจมตีรุนแรงที่สุดในครั้งนี้ ตั้งแต่มีความขัดแย้งกันมาเมื่อ กุมภาพันธ์ 2565 รวมทั้งประเมินว่ารัสเซียจะยกระดับการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของยูเครนในปี 2568 เพื่อกดดันยูเครนให้ยอมรับเงื่อนไขของรัสเซียสู่การยุติสงคราม…