ท่าทีของนายคิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือในที่ประชุมคณะกรรมการกลางพรรคแรงงานเกาหลี (WPK) ระหว่าง 9-11 ธันวาคม 2568 น่าสนใจมาก เนื่องจากเป็นการประชุมสำคัญที่ผู้นำสูงสุเดของเกาหลีเหนือได้แสดงวิสัยทัศน์ที่มีนัยต่อการดำเนินนโยบายด้านการทหารและความมั่นคงในต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะกรณีที่นายคิม จองอึน เชิดชูและยกย่องบทบาทของทหารเกาหลีเหนือที่เดินทางไปร่วมปฏิบัติการทางทหารกับรัสเซียในสงครามยูเครน แม้จะมีทหารเกาหลีเหนือเสียชีวิต แต่ก็เป็นการแสดงบทบาทของเกาหลีเหนือในเวทีโลก ท่าทีดังกล่าวยิ่งตอกย้ำว่า เกาหลีเหนือมีแนวโน้มจะสนับสนุนรัสเซียด้านการทหารและความมั่นคงต่อไป โดยจะเป็นฐานการลงทุน เพื่อพัฒนาและผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ที่รัสเซียจำเป็นต้องใช้ในสงครามยูเครน ตามข้อตกลงที่ผู้นำของทั้ง 2 ประเทศลงนามกันไว้ ซึ่งตอบสนองผลประโยชน์แห่งชาติของทั้ง 2 ฝ่าย ความร่วมมือระหว่างเกาหลีเหนือกับรัสเซียที่แน่นแฟ้นและใกล้ชิดมากขึ้น เฉพาะอย่างยิ่งด้านการทหารและการค้าอาวุธ อาจทำให้เกาหลีเหนือปรับเปลี่ยนแนวทางการพัฒนาอุตสาหกรรมอาวุธในประเทศ จากเดิมที่เน้นพัฒนาและยกระดับขีปนาวุธพิสัยไกลและอาวุธนิวเคลียร์ ไปเป็นอุตสาหกรรมอาวุธที่เน้นผลิตระเบิด รถถัง กระสุนปืนใหญ่ ขีปนาวุธพิสัยใกล้ และอากาศยานไร้คนขับแทน เนื่องจากเป็นอาวุธที่ตอบสนองความต้องการของรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นลูกค้าหลักของเกาหลีเหนือ ดังนั้น เกาหลีเหนืออาจให้ความสำคัญกับการพัฒนาอุตสาหกรรมอาวุธเพื่อการส่งออกไปรัสเซียมากขึ้น ขณะเดียวกันก็จะยังไม่ละทิ้งการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ เนื่องจากยังคงเป็นเครื่องมือที่ค้ำประกันความมั่นคงของเกาหลีเหนือได้ในระยะยาว ตั้งแต่รัสเซียปฏิบัติการทางทหารในยูเครน มีรายงานว่า เกาหลีเหนือเป็นแหล่งอาวุธในการสู้รบของรัสเซีย จากนั้นเกาหลีเหนือเริ่มส่งทหารไปปฏิบัติการสนับสนุนรัสเซียจำนวนมากกว่า 14,000 นาย บางส่วนเข้าไปสู้รบในสมรภูมิแนวหน้าด้วย เนืองจากรัสเซียขาดกำลังพล แต่กองกำลังของเกาหลีเหนือจะเน้นปฏิบัติการในภูมิภาค Kursk ทางตะวันตกของรัสเซีย ล่าสุด มีรายงานว่าเกาหลีเหนือส่งแรงงานก่อสร้างไปฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานรัสเซียที่ได้รับความเสียหายจากสงครามด้วย การที่ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือเสริมสร้างความร่วมมือใกล้ชิดกับรัสเซีย รวมทั้งมีแนวโน้มจะส่งเสริมอุตสาหกรรมอาวุธมากขึ้น…