Global Gaze ปักษ์หลัง ก.ย.68
Global Gaze ปักษ์หลังเดือนกันยายน 2568 รายงานสถานการณ์และบทบาทของผู้นำที่น่าสนใจรอบโลกพร้อมประเมินแนวโน้ม
Global Gaze ปักษ์หลังเดือนกันยายน 2568 รายงานสถานการณ์และบทบาทของผู้นำที่น่าสนใจรอบโลกพร้อมประเมินแนวโน้ม
CyberXplore ฉบับปักษ์หลังเดือนกันยายน 2568 รายงานสถานการณ์ไซเบอร์รอบโลก รายปักษ์ ทุก 15 วัน
สหรัฐฯ เผชิญความสูญเสียจากเหตุรุนแรงในที่สาธารณะ โดยเจ้าหน้าที่สอบสวนกลางสหรัฐฯ (FBI) รายงานเมื่อ 29 กันยายน 2568 ว่า อยู่ระหว่างการสอบสวนเหตุกราดยิงที่โบสถ์ในเมือง Grand Blanc รัฐมิชิแกน สหรัฐฯ ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 คน และได้รับบาดเจ็บ 8 คน เนื่องจากอาจเป็นเหตุการณ์ที่สร้างความหวาดกลัวให้กับชุมชน นอกจากนี้ อาคารที่เกิดเหตุได้รับความเสียหายอย่างมากจากเพลิงไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าผู้ก่อเหตุกราดยิงมีความพยายามจุดเพลิงดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยชื่อผู้ก่อเหตุ คือ นาย Thomas Jacob Sanford อายุ 40 ปี เป็นอดีตทหารสหรัฐฯ โดยถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญหลังจากการปะทะกันด้วยอาวุธปืนเป็นเวลา 8 นาที บริเวณลานจอดรถของสถานที่เกิดเหตุ ส่วน เจ้าหน้าที่ FBI ระบุว่าเหตุการณ์นี้ เป็นการก่อเหตุรุนแรง ยังไม่เชื่อมโยงกับการก่อการร้ายหรือเหตุกราดยิงอื่น ๆ เนื่องจากยังไม่รู้มูลเหตุจูงใจของผู้ก่อเหตุ พร้อมทั้งกล่าวชื่นชมเจ้าหน้าที่ภายในโบสถ์ที่ช่วยเหลือเยาวชนและเด็กที่อยู่ในพื้นที่ให้ปลอดภัยจากเหตุกราดยิงครั้งนี้ FBI และเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้าควบคุมพื้นที่เกิดเหตุเพื่อสอบสวนว่ามีวัตถุระเบิดหรือความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุซ้ำหรือไม่ ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประณามเหตุรุนแรงดังกล่าว และระบุว่าจะให้ FBI เร่งสอบสวนร่วมกับ…
พล.อ.อาวุโส มินอองไลง์ รักษาการประธานาธิบดีเมียนมา และประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงและสันติภาพแห่งรัฐ (State Security and Peace Commission-SSPC) เดินทางเยือนกรุงมอสโก รัสเซีย เพื่อเข้าร่วมงาน World Atomic Week Forum 2025 ซึ่งจัดขึ้นระหว่าง 25 – 28 ก.ย.68 โดยผู้นำเมียนมาย้ำบทบาทของพลังงานนิวเคลียร์ในฐานะพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปล่อยคาร์บอนต่ำ ซึ่งสามารถตอบสนองต่อปัญหาการขาดแคลนพลังงานและเอื้อต่อการพัฒนาเศรษฐกิจเมียนมา พร้อมกล่าวถึงการประยุกต์ใช้นิวเคลียร์ในภาคเกษตรและการแพทย์ ระหว่างการเยือนรัสเซียครั้งนี้ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเมียนมา และกระทรวงการไฟฟ้าเมียนมา ได้ลงนามความร่วมมือกับบริษัท ROSATOM รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย ครอบคลุมการฝึกอบรมทรัพยากรมนุษย์ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีนิวเคลียร์เพื่อสันติภาพ และได้พบหารือกับผู้อำนวยการใหญ่บริษัท ROSATOM เกี่ยวกับแผนการสร้างเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ขนาดเล็ก (Small Modular Reactor-SMR) ในเมียนมา
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ จะเข้าร่วมการประชุม จนท.ระดับสูง กห.สหรัฐฯ วาระฉุกเฉิน ที่ฐานทัพนาวิกโยธินควอนติโก เมืองควอนติโก รัฐเวอร์จิเนีย ใน 30 ก.ย.68 หลังนายปีเตอร์ เฮกเซธ รมว.กห.สหรัฐฯ มีคำสั่งเรียกตัว จนท.ระดับสูง กห.สหรัฐฯ จากทั่วโลก เพื่อเข้าร่วมการประชุมดังกล่าว การประชุมคาดว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนทิศทางและแนวดำเนินนโยบายด้านความมั่นคงของกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งจะมุ่งเน้นการเตรียมพร้อมรับมือกับจีนและใช้กำลังทหารรักษาความมั่นคงในประเทศมากขึ้น อย่างไรก็ดี การเรียกประชุมดังกล่าวก่อให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของ จนท.ที่มารวมตัวกัน ความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อระดมพลกลับสหรัฐฯ ตลอดจนความเป็นไปได้ที่อาจเกิดการสั่งปลด จนท.ระดับสูง กห.สหรัฐฯ ครั้งใหญ่ ซึ่ง รมว.กห.สหรัฐฯ เคยให้คำมั่นว่าจะลดจำนวนนายทหารชั้นนายพลลงกว่าร้อยละ 20
เมียนมาได้ประโยชน์ทั้งการติดตามพัฒนาการของพลังงานนิวเคลียร์ และย้ำความใกล้ชิดกับรัสเซียจากการที่พลเอกอาวุโส มินอองไลง์ รักษาการประธานาธิบดี ประธานคณะกรรมาธิการความมั่นคงและสันติภาพแห่งรัฐ (SSPC) และผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาเข้าร่วมงาน World Atomic Week Forum 2025 ที่มี Rosatom รัฐวิสาหกิจด้านพลังงานนิวเคลียร์ของรัสเซีย เป็นเจ้าภาพและฉลองการครบรอบ 80 ปี อุตสาหกรรมนิวเคลียร์ของรัสเซีย ระหว่าง 25-28 กันยายน 2568 ตามคำเชิญของนายวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย และได้พบหารือกับประธานาธิบดีปูตินด้วย การต้อนรับพลเอกอาวุโส มินอองไลง์ของประธานาธิบดีปูตินที่พระราชวังเครมลิน มอสโก เมื่อ 25 กันยายน 2568 นอกจากผู้นำทั้งสองย้ำความสัมพันธ์ระหว่างกันที่ยาวนานกว่า 70 ปีแล้ว ยังต้องการให้ข้อตกลงที่ลงนามกันมีผลในทางปฏิบัติ เช่น การใช้พลังงานนิวเคลียร์เชิงสันติ การเพิ่มการลงทุน ความร่วมมือด้านสุขภาพ การผลิตยา การเกษตร วิชาการ และการทหาร เป็นต้น พลเอกอาวุโส มินอองไลง์แสดงนัยด้วยว่าสนับสนุนรัสเซียในการทำสงครามกับยูเครน ด้วยการแสดงความเห็นว่า ทุกประเทศมีสิทธิปกป้องตนเอง หากอธิปไตย ความมั่นคงและประชาชนถูกคุกคาม พลเอกอาวุโส มินอองไลง์ยังแจ้งว่า…
นายหวัง อี้ รมว.กต.จีน พบหารือกับนาย Choe Son Hui รมว.กต.เกาหลีเหนือ ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อ 28 ก.ย.68 โดยเห็นพ้องในการต่อต้านลัทธิอำนาจนิยม และเอกภาคีนิยม ในกิจการระหว่างประเทศ ซึ่งมีนัยหมายถึงสหรัฐฯ นายหวังระบุว่า จีนพร้อมกระชับความร่วมมือกับเกาหลีเหนือในทุกระดับ ต่อต้านอำนาจนิยมทุกรูปแบบ พร้อมปกป้องผลประโยชน์ร่วม ความยุติธรรมและความเป็นธรรมระหว่างประเทศ ขณะที่นาย Choe กล่าวสนับสนุนแนวคิดประชาคมที่มีอนาคตร่วมกันเพื่อมนุษยชาติ และข้อริเริ่มธรรมาภิบาลโลก (Global Governance Initiative-GGI) ของจีน เนื่องจากมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมโลกแบบหลายขั้วอำนาจ
รัฐบาลอิหร่านเมื่อ 29 กันยายน 2568 ระบุว่าไม่พอใจและจะตอบโต้สหประชาชาติ กรณีมีมติเมื่อ 28 กันยายน 2568 คว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิหร่าน เนื่องจากเชื่อว่าอิหร่านเดินหน้าพัฒนาโครงการนิวเคลียร์ ไม่ให้ความร่วมมือกับนานาชาติในการตรวจสอบโครงการพัฒนานิวเคลียร์ และไม่ปฏิบัติตามพันธกรณีข้อตกลงระหว่างประเทศ ทั้งนี้ มติของสหประชาชาติมีขึ้นหลังจากสหราชอาณาจักร ฝรั่งเศสและเยอรมนี ยืนยันว่าอิหร่านไม่ให้ความร่วมมือกับต่างประเทศเพื่อเข้าไปตรวจสอบการพัฒนานิวเคลียร์ เท่ากับละเมิดข้อตกลงนิวเคลียร์ JCPOA หรือ Joint Comprehensive Plan of Action ที่กลุ่มประเทศยุโรปลงนามร่วมกับอิหร่านเมื่อปี 2558 และเป็นข้อตกลงที่ทำให้ทั่วโลกชะลอมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านไว้ ยกเว้นสหรัฐฯ ที่ถอนตัวจากข้อตกลงดังกล่าวไปเมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา นานาชาติชะลอการคว่ำบาตรอิหร่านมาเป็นระยะเวลา 10 ปี โดยทบทวนข้อมูลจากประเทศที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งองค์กรระหว่างประเทศเกี่ยวกับโครงการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่านว่าเป็นอันตรายหรือไม่ โดยเมื่อ 28 สิงหาคม 2568 สหประชาชาติต้องทบทวนมติการคว่ำบาตรอิหร่านอีกครั้งตามกำหนดการ และมีรายงานว่าจีนกับรัสเซียพยายามสนับสนุนให้สหประชาชาติยกเว้นหรือชะลอการคว่ำบาตรอิหร่านออกไปแล้ว แต่ไม่เป็นผล หลังจากนี้ อิหร่านจะเผชิญการคว่ำบาตรอย่างเต็มรูปแบบ ได้แก่ ห้ามค้าอาวุธ ห้ามเสริมสมรรถนะยูเรเนียม ห้ามกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับขีปนาวุธที่มีศักยภาพในการนำส่งอาวุธนิวเคลียร์ อายัดทรัพย์สินและคำสั่งห้ามเดินทางสำหรับบุคคลและหน่วยงานของอิหร่าน นอกจากนี้ ประเทศต่าง ๆ จะมีสิทธิตรวจสอบสินค้าที่สายการบินและบริษัทเดินเรือของอิหร่านให้บริการด้วย…
ตำรวจเนเธอร์แลนด์ได้จับกุมเยาวชนชายชาวดัตช์จำนวน 2 ราย อายุ 17 ปี จากกรณีถูกกล่าวหาว่าใช้อุปกรณ์ทางเทคโนโลยีเพื่อสอดส่องและรวบรวมข้อมูลให้แก่รัสเซีย เมื่อ 22 ก.ย.68