การเติบโตของธุรกิจร้านอาหาร เครื่องดื่ม ไอศกรีม และสินค้าประเภทอื่น ๆ ที่ว่าด้วยเรื่องอาหารสัญชาติจีนในต่างประเทศเป็นอีกตัวอย่างที่สะท้อนถึงการมุ่งดำเนินยุทธศาสตร์ “Go Global” ของจีน ด้วยการส่งเสริมให้นักธุรกิจออกไปแสวงหาโอกาสในต่างประเทศนอกเหนือจากการลงทุนในจีน ขณะที่นักลงทุนจีนเองก็ต้องการหาโอกาสใหม่ในต่างประเทศ ธุรกิจที่ว่าด้วยเรื่องอาหารจึงเป็นดาวกระจายดวงใหม่ของจีนที่ประเทศต่าง ๆ ไม่เว้นแม้แต่ไทยที่ต้องได้รู้จัก…มากขึ้น…และมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ขึ้นชื่อว่าจีนคงไม่ง่ายนักในการออกสู่สนามรบในต่างประเทศไม่ว่าจะด้วยธุรกิจใดจะเล็กหรือใหญ่ ในเมื่อหลายประเทศยังคงหวาดระแวงและหวาดกลัวกับการเข้ามาของทุนจีน
ภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังซบเซาโดยมีจุดเริ่มต้นจากวิกฤติอสังหาริมทรัพย์ เป็นหนึ่งในปัจจัยผลักดันให้ผู้ประกอบการร้านอาหารชาวจีนจำเป็นต้องออกไปหาโอกาสเติบโตในประเทศอื่นและเพื่อหนีการแข่งขันที่ดุเดือดในประเทศ แต่ไม่รู้ว่าจะเป็นการหนีเสือปะจระเข้หรือไม่ เมื่อการแข่งขันในต่างประเทศที่ผู้ประกอบการชาวจีนมองว่ายังมีโอกาส ก็ร้อนแรงไม่ต่างจากรสชาติหม่าล่าของจีน เนื่องจากต้องเผชิญกับการแข่งขันกับนักลงทุนชาติอื่น ที่เล็งเห็นโอกาสจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มเช่นกัน
ปัจจุบันมีร้านอาหารสัญชาติจีนในต่างประเทศประมาณ 600,000 แห่ง และแน่นอนว่า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากจีนและมีชุมชนชาวจีนขนาดใหญ่ในแทบทุกประเทศ รวมถึงไทย เป็นตลาดที่มีศักยภาพในสายตานักลงทุนจีน ดังนั้น จึงไม่แปลกที่จะเห็นร้านอาหารและเครื่องดื่มสัญชาติจีนหน้าใหม่ผุดขึ้นเป็นระยะในประเทศแถบภูมิภาคนี้ เช่น ร้านชาบูหม้อไฟ haidilao ร้านกาแฟ Luckin Coffee ร้านชานมไข่มุกและไอศกรีม Mixue แต่นักลงทุนจีนยอมรับว่าความสำเร็จในการเจาะตลาดต่างประเทศไม่ใช่เรื่องง่าย เฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องอยู่รอดท่ามกลางการแข่งขันกับผู้ประกอบการท้องถิ่นที่มีเมนูคุ้นลิ้นคนพื้นที่และเป็นที่รู้จักอยู่แล้ว หรือผู้ประกอบการต่างชาติก็เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นอาหารฝรั่ง เกาหลี และญี่ปุ่น เพราะครองส่วนแบ่งการตลาดอาหารอยู่เดิม และที่สำคัญคือต้องต่อสู้กับผู้ประกอบการชาวจีนด้วยกันที่ต่างก็มองหาโอกาสในต่างประเทศเช่นกัน
บทความเรื่อง “China’s restaurant chains may be biting off more than they can chew overseas” ในเว็บไซต์ https://www.thinkchina.sg/ ที่เผยแพร่เมื่อต้นพฤศจิกายน 2567 สะท้อนความเห็นของผู้ประกอบการธุรกิจร้านอาหารชาวจีนในต่างประเทศว่า แม้ปัจจุบันยังมีโอกาสอีกมากสำหรับผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มชาวจีนในต่างประเทศ และยังต้องการการพัฒนา ผู้ประกอบการหลายรายจึงไม่อยากตกขบวน แต่การลงทุนก็ไม่ได้ราบรื่นนักเพราะต้องเผชิญกับปัญหาหลายด้านที่มีผลต่อต้นทุนและกำไร เช่น ปัญหาโลจิสติกส์จากความล่าช้าในการขนส่งวัตถุดิบหรือเครื่องปรุงรสบางอย่างที่ต้องนำเข้าจากจีน การจำกัดโควตาการนำเข้าของประเทศที่เข้าไปลงทุน หรือหากจะใช้วัตถุดิบในพื้นที่ก็มีราคาสูงเมื่อเทียบกับการนำเข้าจากจีน ทำให้ผู้ประกอบการชาวจีนต้องหาทางเอาตัวรอดด้วยตัวเองหรือร่วมมือกับผู้ประกอบการชาวจีนด้วยกัน
ร้านอาหารและเครื่องดื่มของนักลงทุนชาวจีนในต่างประเทศเป็นธุรกิจหน้าใหม่ที่น่าจับตามองและสร้างความหวาดหวั่นให้นักธุรกิจหน้าเดิมในตลาด ซึ่งหวั่นเกรงการรุกลงทุนในต่างประเทศของจีนในธุรกิจทุกประเภทอยู่แล้ว และยังซ้ำเติมจากการทะลักเข้ามาของสินค้าจีนราคาถูกในหลายประเทศ เช่น การเปิดสาขาในต่างประเทศของร้านกาแฟ Luckin Coffee ร้านกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในจีน ที่เริ่มจากประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หลังจากประสบความสำเร็จในการขยายสาขาในจีนที่ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 20,000 แห่ง จนแซงหน้าร้านกาแฟระดับโลกเช่น Starbuck เป็นตัวอย่างของการรุกคืบในการเจาะตลาดธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม ประกอบกับมีกลยุทธ์สำคัญที่โดนใจลูกค้าทั้งกาแฟ พรีเมียมในราคาจับต้องได้ และมีรูปแบบการทำธุรกิจทันสมัยผสมผสานกันทั้งออฟไลน์และออนไลน์ (O2O) เน้น Delivery และ Grab-and-Go และชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ จึงสร้างความหวั่นไหวให้กับผู้ประกอบการเจ้าเดิมไม่น้อย โดยก่อนหน้านี้ร้านชาบูหม้อไฟ haidilao ก็มีสาขาในหลากหลายประเทศทั้งในฝั่งเอเชียและฝั่งตะวันตก
แต่ก็ไม่ใช่ทุกรายที่จะประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจในต่างประเทศและก็ไม่ใช่ว่าจะราบรื่นเสมอไป โดยระหว่างทางก็จะเผชิญคลื่นลมแรงบ้างเบาบ้างแตกต่างกันไป ผู้ประกอบการร้านอาหารชาวจีนในต่างประเทศ ให้ข้อคิดที่น่าสนใจสำหรับการออกไปลงทุนในต่างประเทศว่า ความสำเร็จในการขยายตลาดในต่างประเทศไม่ได้ต้องการเพียงแค่มีทุนหนา แต่ที่สำคัญคือต้องมีสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งเพื่อให้ธุรกิจฝ่าฟันไปได้ตลอดรอดฝั่ง และการตัดสินใจออกไปลงทุนในต่างประเทศควรจะเกิดขึ้นเมื่อธุรกิจที่ดำเนินอยู่มีความมั่นคงเพียงพอ เพื่อเป็นการต่อยอดธุรกิจเดิม ไม่ใช่เพื่อไปหาทางเอาตัวรอดในสถานการณ์ใหม่ และการลงทุนในบ้านเกิดที่คุ้นเคยอยู่แล้วยังเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หากมีบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุน