ออสเตรเลีย
ระบุเมื่อ 1 ก.ย.64 หยุดให้บริการขนส่งสิ่งของไปรษณีย์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย และออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรีเป็นเวลา 4 วัน (4-7 ก.ย.64) เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 ทั้งนี้ มี จนท.ไปรษณีย์ต้องกักบริเวณแล้วกว่า 500 ราย
ระบุเมื่อ 1 ก.ย.64 หยุดให้บริการขนส่งสิ่งของไปรษณีย์ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ รัฐวิกตอเรีย และออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรีเป็นเวลา 4 วัน (4-7 ก.ย.64) เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ COVID-19 ทั้งนี้ มี จนท.ไปรษณีย์ต้องกักบริเวณแล้วกว่า 500 ราย
ระบุเมื่อ 31 ส.ค.64 ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 แม้ฉีดวัคซีนครบโดสแล้ว โดยพบในผู้ที่ฉีดวัคซีนของบริษัท Johnson & Johnson มากที่สุดในอัตราร้อยละ 0.113 รองลงมาคือ วัคซีนของบริษัท AstraZeneca ร้อยละ 0.068 และวัคซีนของบริษัท Pfizer ร้อยละ 0.021
ระบุเมื่อ 31 ส.ค.64 ได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ครบ 2 โดสให้กับประชากรวัยผู้ใหญ่ร้อยละ 70 ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และอยู่ระหว่างพิจารณาความเป็นไปได้ในการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ภายในปี 2564
ระบุเมื่อ 31 ส.ค.64 ขยายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ทั่วประเทศอีก 15 วัน (ห้วง 1-15 ก.ย.64)
ระบุเมื่อ 31 ส.ค.64 ขอให้ประชาชนเปลี่ยนการติดตั้งแอปพลิเคชันในการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์โรค COVID-19 จาก Indonesia Health Alert Card (eHAC) ที่พัฒนาโดย สธ.อินโดนีเซียเป็น PeduliLindungi ซึ่งพัฒนาโดยกระทรวงการสื่อสารและข้อมูลของอินโดนีเซีย เนื่องจากสงสัยว่า eHAC มีการละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
ระบุเมื่อ 31 ส.ค.64 ติดตามการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์ B.1621 (Mu) ที่พบครั้งแรกเมื่อ ม.ค.64 ที่โคลอมเบีย ซึ่งมีความเสี่ยงที่เชื้อจะลดทอนประสิทธิภาพวัคซีนและหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้
ระบุเมื่อ 31 ส.ค.64 ตรวจพบเชื้อ COVID-19 กลายพันธุ์สายพันธุ์ N501S เป็นครั้งแรกในญี่ปุ่น ซึ่งมีลักษณะคล้ายเชื้อ COVID-19 สายพันธุ์อัลฟาหรือ N501Y โดยฐานข้อมูล GISAID ณ 27 ส.ค.64 ระบุว่า มีผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์สายพันธุ์ N501S สะสม 8 ราย
ระบุเมื่อ 31 ส.ค.64 บรรลุข้อตกลงแลกเปลี่ยนวัคซีน COVID-19 กับออสเตรเลีย โดยสิงคโปร์จะส่งมอบวัคซีน Pfizer-BioNTech จำนวน 500,000 โดส ให้ออสเตรเลียภายในสัปดาห์นี้ และออสเตรเลียจะส่งคืนวัคซีนชนิดเดียวกันภายใน ธ.ค.64 ซึ่งสิงคโปร์จะใช้ฉีดเป็นวัคซีนเข็มกระตุ้นในห้วงดังกล่าว
ประกาศเมื่อ 30 ส.ค.64 ควบคุมค่าบริการตรวจหาเชื้อ COVID-19 ด้วยวิธี PCR ในสถานพยาบาลทั่วประเทศ โดยปรับลดเหลือ 50 ดิรฮัม (ประมาณ 440 บาท) จากเดิมที่มีการเรียกเก็บค่าบริการต่างกันในแต่ละพื้นที่ ตั้งแต่ 65-150 ดิรฮัม (ประมาณ 570-1,320 บาท)
ประกาศเมื่อ 30 ส.ค.64 ขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ออกไปจนถึง 30 ก.ย.64 โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมถึงการห้ามเที่ยวบินพาณิชย์ระหว่างประเทศลงจอด และการบังคับใช้มาตรการ Stay-at-Home