เยาวชนไทยกับภาวะซึมเศร้า
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมามักมีการรายงานข่าวเกี่ยวกับการฆ่าตัวตายและปัญหาซึมเศร้า โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนไทยที่ประสบกับปัญหาสภาวะทางสุขภาพจิตกันมากขึ้น โดยข้อมูลกรมสุขภาพจิตปี 2562 – 2566 พบว่าอัตราการฆ่าตัวตายสำเร็จในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจาก 7.26 เป็น 7.94 ต่อประชากร1แสนคน และในปี 2566 มีคนพยายามฆ่าตัวตายถึง 25,578 คน โดยกลุ่มวัยรุ่นอายุ 15-19 ปี มีอัตราพยายามฆ่าตัวตายสูงสุด ซึ่งมีการประเมินกันว่าปัญหาการฆ่าตัวตายของเยาวชนไทยที่เพิ่มสูงขึ้นนั้น เป็นผลมาจากความเครียดและความโดดเดี่ยวทางจิตใจที่เยาวชนต้องเผชิญ อีกทั้งเห็นว่าการเผชิญภาวะซึมเศร้าและการฆ่าตัวตายของเยาวชนยังอาจนำไปสู่ปัญหาร้ายแรงได้อีกหลากหลาย อาทิยาเสพติดและการกระทำผิดอื่นๆ ตลอดจนการสูญเสียทรัพยากรเยาวชนที่สำคัญย่อมกระทบต่อการพัฒนาประเทศทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจในอนาคต ………..ระยะหลังที่เยาวชนไทยประสบกับปัญหาความโดดเดี่ยวทางจิตใจกันเป็นอย่างมาก คาดว่าส่วนหนึ่งคงเป็นผลมาจากโควิด-19 ที่ทำให้เกิดความเบื่อหน่ายกับชีวิต ขาดโอกาสในการมีปฏิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ขาดพื้นที่การทำกิจกรรมร่วมกัน รวมไปถึงปัจจัยจากด้านแรงกดดันจากสังคมและอิทธิพลของโซเชียลมีเดีย อย่างเช่นอิทธิพลของคอนเทนต์ประเภทที่มักมีการนำเสนอชีวิตที่สมบูรณ์แบบในโลกออนไลน์ ซึ่งการได้เห็นชีวิตของกลุ่มคนเหล่านี้อาจมีส่วนทำให้เยาวชนไทยรู้สึกกดดัน เพราะไม่สามารถใช้ชีวิตเช่นนั้นได้ นอกจากนี้ยังมีปัจจัยที่เกิดจากสังคมไทย กล่าวคือ สังคมไทยนั้นเป็นสังคมที่ยังไม่ค่อยเปิดรับกับปัญหาสุขภาพทางจิตใจมากนัก โดยยังมักมีมุมมองความคิดว่า ปัญหาทางสุขภาพทางจิตของเยาวชนเกิดขึ้น เพราะเยาวชนต้องการเรียกร้องความสนใจ คิดไปเอง และยังไม่จำเป็นต้องพบแพทย์และทำการรักษา ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้ป่วยหรือผู้ที่เผชิญปัญหาสุขภาพทางจิต มีความกังวลไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง เพราะกลัวคนรอบข้างไม่เข้าใจ กรมสุขภาพจิตได้มีการรายงานสถิติของผู้ป่วยโรคซึมเศร้า 100 คน ได้รับการรักษาเพียง 28 คนเท่านั้น และมีการวิเคราะห์พบว่าความโดดเดี่ยวทางจิตใจในเยาวชนไทยมีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพจิต โดยมีระดับความเครียดสูงถึง…