อินเดีย
ระบุเมื่อ 17 ส.ค.64 ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 25,166 ราย ซึ่งต่ำสุดในรอบ 154 วัน แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ระลอก 3 ซึ่งนักวิจัยประเมินว่า จะเริ่มใน ส.ค.64 และรุนแรงสุดใน ก.ย.-ต.ค.64
ระบุเมื่อ 17 ส.ค.64 ตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 รายใหม่ 25,166 ราย ซึ่งต่ำสุดในรอบ 154 วัน แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ระลอก 3 ซึ่งนักวิจัยประเมินว่า จะเริ่มใน ส.ค.64 และรุนแรงสุดใน ก.ย.-ต.ค.64
ระบุเมื่อ 17 ส.ค.64 เตรียมจัดหาวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เพิ่มเติม เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันของประชาชนด้วยวัคซีนเข็มที่ 3 ซึ่งรัฐบาลญี่ปุ่นลงนามจัดซื้อวัคซีนเพิ่มเติมแล้ว 170 ล้านโดส แบ่งเป็นวัคซีนของบริษัท Pfizer 120 ล้านโดส และบริษัท Moderna 50 ล้านโดส โดยมีกำหนดส่งมอบในปี 2565
ระบุเมื่อ 16 ส.ค.64 ขอให้สหรัฐฯ ช่วยจัดหาวัคซีน COVID-19 ให้ฟิลิปปินส์เพิ่มเติม โดยฟิลิปปินส์เข้าใจว่า สหรัฐฯ ต้องช่วยเหลือพลเมืองในประเทศก่อน แต่ขอให้พิจารณาช่วยเหลือฟิลิปปินส์หากมีวัคซีนส่วนเกิน ซึ่งฟิลิปปินส์พร้อมซื้อวัคซีนดังกล่าว
ประกาศเมื่อ 17 ส.ค.64 บังคับใช้มาตรการ Lockdown ทั่วประเทศเป็นระยะเวลา 3 วัน ยกเว้นนครโอ๊คแลนด์เป็นระยะเวลา 7 วัน เนื่องจากตรวจพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 จำนวน 1 ราย ที่นครโอ๊คแลนด์ ซึ่งเป็นการตรวจพบผู้ติดเชื้อในประเทศรายแรกในรอบ 6 เดือน
ประกาศเมื่อ 16 ส.ค.64 ควบคุมการส่งออกชุดตรวจหาเชื้อ COVID-19 แบบ Rapid Antigen Test (RAT) เพื่อสำรองให้เพียงพอต่อความต้องการใช้ในห้วงวิกฤต COVID-19 ระลอก 3 โดยผู้ประสงค์จะส่งออกต้องยื่นคำขอให้สำนักการค้าต่างประเทศพิจารณาอนุมัติ
ระบุเมื่อ 16 ส.ค.64 ยังไม่อนุมัติใช้วัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ของบริษัท UBI Pharma ของไต้หวัน เป็นกรณีฉุกเฉิน เนื่องจากการกระตุ้นระดับภูมิคุ้มกันของวัคซีนดังกล่าวยังอยู่ในระดับต่ำกว่าวัคซีน AstraZeneca แต่บริษัทฯ จะยังคงดำเนินการทดสอบทางคลินิกระยะที่ 3 ในอินเดียต่อไป
ระบุเมื่อ 16 ส.ค.64 เตรียมประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพิ่ม 7 จังหวัด ได้แก่ จ.อิบารากิ จ.โทชิกิ จ.กุมมะ จ.ชิซุโอกะ จ.เกียวโต จ.เฮียวโงะ และ จ.ฟุกุโอกะ ระหว่าง 20 ส.ค.-12 ก.ย.64 เนื่องจากการกลับมาแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ส่งผลให้ระบบสาธารณสุขอยู่ในภาวะตึงตัว
ประกาศเมื่อ 16 ส.ค.64 จะเริ่มให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 ในที่พักอาศัย สำหรับประชาชนและชาวต่างชาติอายุ 70 ปีขึ้นไปที่พำนักในซาอุดีอาระเบีย เพื่อลดความเสี่ยงและป้องกันการติดเชื้อจากการเดินทางมาฉีดวัคซีนที่สถานพยาบาลหรือศูนย์ฉีดวัคซีน
ระบุเมื่อ 16 ส.ค.64 เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ซึ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรค COVID-19 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 เฉพาะอย่างยิ่ง สายพันธุ์เดลตา
ระบุเมื่อ 15 ส.ค.64 จะขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมในนครโฮจิมินห์ออกไปอีก 1 เดือน จนถึง 15 ก.ย.64 เพื่อจำกัดวงการแพร่ระบาด หลังจากการบังคับใช้มาตรการดังกล่าวช่วยลดการสัญจรได้ร้อยละ 75 และลดอัตราการติดเชื้อในบริเวณที่ปิดพื้นที่เหลือร้อยละ 57